PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : เทคนิค!! กำจัดหมัดหมา



teerapon12
December 4th, 2014, 09:02
บ้านไหนที่เลี้ยงสุนัข คงหนีไม่พ้นปัญหาเห็บหมา หมัดหมา เป็นแน่ และผลร้ายของ “เห็บและหมัด” จัดว่าเป็นสิ่งที่ทำความรำคาญ
และเป็นพาหะที่นำโรคภัยต่างๆ มาสู่สัตว์ ประเภทที่เรียกได้ว่าเป็นภัยใกล้ตัว ที่ไม่ควรมองข้ามเลย
เจ้าเห็บ-หมัด นี้สามารถนำโรคพยาธิในเม็ดเลือด (Ehrlichiosis, Babesiosis, Hepatozoonosis) มาสู่น้องหมา ทั้งนี้โรคดังที่กล่าวมาแล้ว เป็นโรคที่พบได้บ่อยในไทย
ก่อให้ปัญหาต่างๆ ตามมาได้ เช่น โรคเลือดจาง, โรคตับ, โรคไต และอีกหลายโรค อาการที่มักเริ่มสังเกตุได้คือ ซึมลง, เบื่ออาหาร, มีไข้ตัวร้อน, เหงือกหรือลิ้นซีดลง ฯลฯ
นอกจากนี้บริเวณที่โดนเห็บ-หมัดกัด ยังเป็นเหตุให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้สัตว์เลี้ยงเป็นโรคผิวหนัง
ที่เรียกว่า “โรคแพ้น้ำลายหมัด”(flea allergic dermatitis) หรือน้องหมาอาจจะมีอาการคันและเกา จนทำให้เกิดแผลอักเสบติดเชื้อที่รุนแรงมากขึ้นตามมาได้
และถ้าหากเจ้าของปล่อยทิ้งปล่อยให้น้องหมาสั่งสมเห็บ-หมัดเป็นจำนวนมาก คงไม่เป็นการดีแน่ เพราะสามารถทำให้น้องหมาแสนรักของคุณเสียชีวิตได้
"  หมัด" หมัดเป็นปรสิตที่มีขนาดเล็ก เคลื่อนไหวโดยการกระโดด หมัดสามารถกระโดดได้สูงกว่าความสูงของมันราวๆ 100 เท่า แมวส่วนใหญ่จะเป็นพาหะของหมัด
หมัดที่พบในบ้านเราเป็นส่วนใหญ่เป็นประเภทที่เรียกว่าCtenocephalides felis หมัดชนิดนี้อาศัยได้ทั้งในแมว และสุนัข ตัวเต็มวัยของหมัดจะอยู่อาศัยบนตัวสัตว์และดูดเลือดสัตว์เป็นอาหาร
วงจรชีวิตหมัด ตัวเต็มวัยของหมัดสามารถอยู่บนตัวสัตว์ได้เป็นระยะเวลานาน ปกติจะพบหมัดบนตัวสัตว์ที่มีสุขภาพไม่สมบรูณ์ หรือเป็นโรคเรื้อรัง
แต่หมัดสามารถอยู่ได้ในภาวะแวดล้อมได้นานโดยประมาณ 1- 4 วันเท่านั้น หมัดเป็นปรสิตที่สามารถสืบพันธุ์เร็วมาก หมัดตัวเมีย 1 ตัวสามารถวางไข่ได้มากถึง 50 ฟองต่อวัน
นานติดต่อกันเป็นเวลาหลายสัปดาห์ หมัดขึ้นบนตัวสัตว์โดยการกระโดดตามก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ที่ปล่อยออกมาจากตัวสัตว์ หมัดจะวางไข่ที่ขนสุนัข ไข่หมัดจะมีขนาดเล็กมาก
ยาวราวๆ 0.5 มม. จากนั้นไข่จะตกลงพื้น และฟักตัว ในสภาพอากาศของประเทศไทย ซึ่งเป็นเขตร้อนชื้นนั้น ใข่หมัดจะใช้เวลา
แค่เพียงไม่กี่วันในการฟักเป็นตัวอ่อน(ตัวหนอน) ตัวอ่อนของหมัดจะมีขนาดเล็กมากและเจริญเติบโตโดยการกินเศษเนื้อเยื่อต่างๆ ที่อยู่ในภาวะแวดล้อม เป็นอาหาร(tissue debris) ตัวอ่อนของหมัดจะไม่ชอบแสงไฟ และชอบอยู่ในที่ชื้น
ภายในเวลาไม่กี่วันตัวอ่อนของหมัดจะกลายเป็น ดักแด้ และใช้เวลาโดยประมาณไม่เกิน 10 วัน ในการพัฒนาเป็น ตัวเต็มวัย โดยเฉลี่ยแล้ว หมัด จะมีวงจรชีวิตอยู่ราว 3 สัปดาห์
แต่อย่างไรก็ตาม ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต หมัดจะสามารถอยู่รอดภายในเปลือกดักแด้ได้นาน ถึง 6 เดือนเลยทีเดียว
การกำจัดหมัดหมา กำจัดเห็บหมา ให้ได้ผลนั้นต้องกำจัดที่ตัวสัตว์และในสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป เพราะหากไม่กำจัดตามสิ่งแวดล้อมแล้ว เห็บหมัดพวกนี้ก็จะกระโดดกลับมา
อยู่อาศัยบนตัวน้องหมาได้ใหม่ไม่สิ้นสุด ประจุบันมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการกำจัดหมัดหมา เห็บหมา โดยการใช้เครื่องพ่นไอน้ำstemar  พ่นกำจัดหมัดหมา เห็บหมา
โดยสามารถพ่นไอร้อนอุณหภูมิได้สูงถึง 200 °F (95 °C) ป็นนวัตกรรมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีพลังงานไอน้ำ โดยไม่มีเคมี 100 %  พ่นฆ่ากำจัดหมัดหมา  เห็บหมา หรือไข่เห็บหมัด
ตามขอบ รู มุมพื้นบริเวณที่น้องสุนัขนอนหลับ เครื่องพ่นไอน้ำ STEMAR สามารถ กำจัดหมัดหมา (http://www.stemar.co.th/%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94) เห็บหมา ได้ทุกวัยรวมถึงไข่ และยังสามารถพ่น กำจัดตัวเรือด (http://www.bedbugsystem.net/%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94) ตัวไรฝุ่น ได้อีกด้วย
โดยปราศจากการใช้เคมีใดๆ ในการกำจัด และไม่มีสารเคมีตกค้าง หรือ กลิ่นใดๆ ทั้งสิ้น และสามารถใช้ระบบความร้อนสูงนี้ได้ด้วยตนเองอย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ในการไปจ้างบริษัทกำจัดแมลง ไม่เป็นพิษภัยต่อคน สัตว์เลี้ยง และเป็นมิตรต่อภาวะแวดล้อมเพราะไม่ใช้สารเคมี
มีล้อสำหรับลากขณะที่ใช้งานเพื่อความคล่อง สะดวก เครื่องพ่นไอน้ำ STEMAR (http://www.stemar.co.th/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99) เป็นเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับประเทศสหรัฐอเมริกา, เยอรมัน, อังกฤษ,
ฝรั่งเศษ, รัสเซีย และอีกหลายประเทศในยุโรปที่ใช้ กำจัดไรฝุ่น ตัวเรือด เห็บหมัด  ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 

http://s9.postimg.org/8nfh37nqn/stemar3.jpg