teerapon12
December 12th, 2014, 09:30
ไรฝุ่นมีรูปร่างคล้ายเห็บและแมงมุม แต่ตัวเล็กมากต้องมองด้วยกล้องจุลทรรศน์ ไรฝุ่นมีขนาดเพียง 1 ใน 3 ถึง 1 ใน 4 มม. ค่อนข้างจะขาว มี 8 ขา
โดยปกติไม่ถือว่าไรฝุ่นเป็นแมลง (Insects) แต่ถือเป็นสัตว์ขาปล้อง (Arthropods) เหมือนแมงมุม มีอายุประมาณ 2-4 เดือน เติบโตในสภาวะแวดล้อมที่ชื้น
อุ่น ที่อุณหภูมิ 18.5 - 29 องศา ซึ่งโดยมากได้แก่ บริเวณเครื่องนอน เบาะเฟอร์นิเจอร์ และพรม ไรฝุ่นจะกินเซลล์ผิวหนังที่ร่วงของมนุษย์
ซึ่งในแต่ละวัน มนุษย์ 1 คน มีเซลล์ที่หลุดร่วงประมาณ 1.5 กรัม ที่สามารถใช้เป็นอาหารของไรฝุ่นได้ถึง 1 ล้านตัว เราสามารถพบไรฝุ่นได้ทั่วทุกภาคของโลก
ยกเว้นบริเวณขั้วโลกใต้ (Antarctica) โดยมีชาวอเมริกันราวๆ 20 ล้านคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ไรฝุ่น และจากผลการวิจัยพบว่า เราสามารถพบไรฝุ่นได้มากที่สุดในห้องนอน
โดยตัวการที่ไรฝุ่นทำให้เกิดอาการแพ้ ไม่ได้เกิดจากการโดนไรฝุ่นกัด แต่เกิดจากโปรตีน (Enzymic proteins) ที่อยู่ในอุจจาระของไรฝุ่น
หลายคนคงไม่รู้ว่าฝุ่นละอองขนาดเล็กมีผลกระทบต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก เมื่อหายใจเข้าไปในปอดจะเข้าไปอยู่ในระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง ในสหรัฐฯพบว่า
ผู้ที่ได้รับฝุ่นในระดับหนึ่งจะทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ และฝุ่นในบรรยากาศจะมีความสัมพันธ์กับอัตราการเพิ่มของผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจและโรคปอด
และเกี่ยวโยงกับการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ไรฝุ่น เช่น
- ปัจจัยทางพันธุกรรม กล่าวคือ ผู้ที่มีพ่อหรือแม่ หรือทั้งสองท่านมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ก็จะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ ได้ง่าย
- ปัจจัยสิ่งแวดล้อม เนื่องจากว่าสารก่อภูมิแพ้จะอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบตัว เราจึงจำเป็นที่จะต้องดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัวหรือผู้ป่วยไม่ให้มีจำนวนสารก่อภูมิแพ้มาก
จึงจะช่วยลดความเสี่ยงหรือการกระตุ้นให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ได้ ในบางรายอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้เมื่อได้รับสารก่อภูมิแพ้ แต่สำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่แพ้ไรฝุ่น
ถ้าเกิดได้รับหรือสัมผัสก็จะไม่เกิดอาการ แต่ในกรณีที่ถ้าได้รับในปริมาณมากๆ และสัมผัสบ่อยครั้ง ก็จะสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้เหมือนกัน
http://s24.postimg.org/ek06x5k9x/image.jpg
ปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีใดวิธีหนึ่งที่สามารถควบคุมหรือกำจัดไรฝุ่นได้ 100% จึงต้องใช้ในหลายวิธีร่วมกัน ดังเช่น การทำความสะอาดบ้านและห้องนอนอยู่เสมอ
โดยเฉพาะห้องนอนควรปัดกวาดเช็ดถูด้วยผ้าหมาดจึงจะช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่นได้ดี การปรับสภาพห้องนอนให้โล่ง มีอากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงเข้าถึง
และพื้นไม่ควรปูด้วยพรม ที่สำคัญเราควรคลุมเครื่องนอนด้วยผ้ากันไรฝุ่น หรือผ้าพลาสติกเพื่อลดการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่น การดูแลทำความสะอาดเครื่องนอน
ไม่ว่าจะเป็นผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ควรหมั่นซักทำความสะอาดทุก 2 อาทิตย์หรืออย่างน้อย เดือนละ 1 ครั้ง ผ้ากำจัดไรฝุ่นก็เช่นกันควรซักอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อเดือน
และควรซักทำความสะอาดในน้ำที่ผสมผงซักฟอก แต่ถ้าใช้น้ำร้อนจะสามารถกำจัดไรฝุ่นและมูลไรฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น
กำจัดไรฝุ่นด้วยเครื่องพ่นไอน้ำ Stemar
STEMAR คือ เครื่องกำจัดไรฝุ่น (http://www.stemar.in.th) ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยที่สุดในการกำจัดไรฝุ่น ด้วยพลังงานไอน้ำความร้อนอุณหภูมิได้สูงถึง 200 °F (95 °C)
จะทำให้ไรฝุ่นตายในทันที และยังสามารถใช้กำจัดตัวเรือด กำจัดตัวไร กำจัดเห็บหมัด (http://www.stemar.co.th/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-stemar) และทำความสะอาดสิ่งของ และ สถานที่ต่างๆ โดยไม่ต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดใดให้เป็นสารตกค้าง
จึงถือเป็นการทำความสะอาดที่ดีที่สุด รูปทรงดูไฮเทค ( Modern ) น่าใช้งานซึ่งออกแบบโดยทีม Design จากอเมริกา สายไฟเครื่องยาวถึง 5 เมตร
ซึ่งสามารถเลื่อนไปมาสะดวกต่อการใช้งานในสถานที่ต่างๆ ไม่มีสารเคมีตกค้างใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเครื่องมือที่ปลอดภัยต่อการใช้งานและไม่มีเคมีใดๆ ทั้งสิ้นแบบ 100 % เครื่องกำจัดตัวเรือด (http://www.thaibedbugs.com)
ซึ่งปลอดภัยกับคนในบ้าน, เด็กเล็ก, สัตว์เลี้ยงต่างๆ และภาวะแวดล้อม
http://s8.postimg.org/x2jm3qi9x/image.jpg
โดยปกติไม่ถือว่าไรฝุ่นเป็นแมลง (Insects) แต่ถือเป็นสัตว์ขาปล้อง (Arthropods) เหมือนแมงมุม มีอายุประมาณ 2-4 เดือน เติบโตในสภาวะแวดล้อมที่ชื้น
อุ่น ที่อุณหภูมิ 18.5 - 29 องศา ซึ่งโดยมากได้แก่ บริเวณเครื่องนอน เบาะเฟอร์นิเจอร์ และพรม ไรฝุ่นจะกินเซลล์ผิวหนังที่ร่วงของมนุษย์
ซึ่งในแต่ละวัน มนุษย์ 1 คน มีเซลล์ที่หลุดร่วงประมาณ 1.5 กรัม ที่สามารถใช้เป็นอาหารของไรฝุ่นได้ถึง 1 ล้านตัว เราสามารถพบไรฝุ่นได้ทั่วทุกภาคของโลก
ยกเว้นบริเวณขั้วโลกใต้ (Antarctica) โดยมีชาวอเมริกันราวๆ 20 ล้านคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ไรฝุ่น และจากผลการวิจัยพบว่า เราสามารถพบไรฝุ่นได้มากที่สุดในห้องนอน
โดยตัวการที่ไรฝุ่นทำให้เกิดอาการแพ้ ไม่ได้เกิดจากการโดนไรฝุ่นกัด แต่เกิดจากโปรตีน (Enzymic proteins) ที่อยู่ในอุจจาระของไรฝุ่น
หลายคนคงไม่รู้ว่าฝุ่นละอองขนาดเล็กมีผลกระทบต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก เมื่อหายใจเข้าไปในปอดจะเข้าไปอยู่ในระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง ในสหรัฐฯพบว่า
ผู้ที่ได้รับฝุ่นในระดับหนึ่งจะทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ และฝุ่นในบรรยากาศจะมีความสัมพันธ์กับอัตราการเพิ่มของผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจและโรคปอด
และเกี่ยวโยงกับการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ไรฝุ่น เช่น
- ปัจจัยทางพันธุกรรม กล่าวคือ ผู้ที่มีพ่อหรือแม่ หรือทั้งสองท่านมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ก็จะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ ได้ง่าย
- ปัจจัยสิ่งแวดล้อม เนื่องจากว่าสารก่อภูมิแพ้จะอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบตัว เราจึงจำเป็นที่จะต้องดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัวหรือผู้ป่วยไม่ให้มีจำนวนสารก่อภูมิแพ้มาก
จึงจะช่วยลดความเสี่ยงหรือการกระตุ้นให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ได้ ในบางรายอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้เมื่อได้รับสารก่อภูมิแพ้ แต่สำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่แพ้ไรฝุ่น
ถ้าเกิดได้รับหรือสัมผัสก็จะไม่เกิดอาการ แต่ในกรณีที่ถ้าได้รับในปริมาณมากๆ และสัมผัสบ่อยครั้ง ก็จะสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้เหมือนกัน
http://s24.postimg.org/ek06x5k9x/image.jpg
ปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีใดวิธีหนึ่งที่สามารถควบคุมหรือกำจัดไรฝุ่นได้ 100% จึงต้องใช้ในหลายวิธีร่วมกัน ดังเช่น การทำความสะอาดบ้านและห้องนอนอยู่เสมอ
โดยเฉพาะห้องนอนควรปัดกวาดเช็ดถูด้วยผ้าหมาดจึงจะช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่นได้ดี การปรับสภาพห้องนอนให้โล่ง มีอากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงเข้าถึง
และพื้นไม่ควรปูด้วยพรม ที่สำคัญเราควรคลุมเครื่องนอนด้วยผ้ากันไรฝุ่น หรือผ้าพลาสติกเพื่อลดการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่น การดูแลทำความสะอาดเครื่องนอน
ไม่ว่าจะเป็นผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ควรหมั่นซักทำความสะอาดทุก 2 อาทิตย์หรืออย่างน้อย เดือนละ 1 ครั้ง ผ้ากำจัดไรฝุ่นก็เช่นกันควรซักอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อเดือน
และควรซักทำความสะอาดในน้ำที่ผสมผงซักฟอก แต่ถ้าใช้น้ำร้อนจะสามารถกำจัดไรฝุ่นและมูลไรฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น
กำจัดไรฝุ่นด้วยเครื่องพ่นไอน้ำ Stemar
STEMAR คือ เครื่องกำจัดไรฝุ่น (http://www.stemar.in.th) ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยที่สุดในการกำจัดไรฝุ่น ด้วยพลังงานไอน้ำความร้อนอุณหภูมิได้สูงถึง 200 °F (95 °C)
จะทำให้ไรฝุ่นตายในทันที และยังสามารถใช้กำจัดตัวเรือด กำจัดตัวไร กำจัดเห็บหมัด (http://www.stemar.co.th/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-stemar) และทำความสะอาดสิ่งของ และ สถานที่ต่างๆ โดยไม่ต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดใดให้เป็นสารตกค้าง
จึงถือเป็นการทำความสะอาดที่ดีที่สุด รูปทรงดูไฮเทค ( Modern ) น่าใช้งานซึ่งออกแบบโดยทีม Design จากอเมริกา สายไฟเครื่องยาวถึง 5 เมตร
ซึ่งสามารถเลื่อนไปมาสะดวกต่อการใช้งานในสถานที่ต่างๆ ไม่มีสารเคมีตกค้างใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเครื่องมือที่ปลอดภัยต่อการใช้งานและไม่มีเคมีใดๆ ทั้งสิ้นแบบ 100 % เครื่องกำจัดตัวเรือด (http://www.thaibedbugs.com)
ซึ่งปลอดภัยกับคนในบ้าน, เด็กเล็ก, สัตว์เลี้ยงต่างๆ และภาวะแวดล้อม
http://s8.postimg.org/x2jm3qi9x/image.jpg