sanpoa42
January 15th, 2015, 00:00
ผมมีประสบการ์ณยางระเบิด ยางแบน มาบอกให้ฟังครับและ
ข้อชักนำด้วยเกี่ยวกับการใช้เครื่องวัดลมยาง เหตุการ์ณเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ช่วงสงการ์ณ ยางแบนแล้วไม่รู้ตัววิ่งจนได้กลิ่น
ไอเหม็นไหม้ แล้วรู้สึกว่าเสียงมันดังความเร็วที่วิ่งอยู่ ประมาณ 90-100 ได้ กว่าจะชะลอรถแล้ว หยุดลงมาดู ยางก็ฉีกเป็นเส้นแล้วบางส่วน
เป็นยางล้อหลังซ้าย ท้ายต้องให้Taxiช่วยเปลี่ยนให้เพราะไม่มีแม่แรงขึ้น (รถเพึ่งซื้อต่อมา
ไม่มีแม่แรงให้)แล้วตอนถอดออกมายางร้อนมากจับไม่ได้เลย ต้องเอาน้ำมาลาด โชคยังดีว่ามียางอะหลั่ย เนื่องจากผมปล่อยให้ลมยางอ่อน ไม่
ได้ใช้เครื่องวัดลมยางเช็คตอนบรรทุกหนักถ้าขับเป็นนิตย์ จนชำนาญ รถวิ่งบนทางเรียบ
ยางเริ่มแบน คนขับจะรู้สึกได้ครับ การทรงตัวของรถจะ ปรับเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นล้อไหนก็ตาม
แม้แต่หกล้อ สิบล้อ ล้อหลังรั่ว 1 เส้นก็รับรู้ได้ ถ้าชำนาญพอ ลมยางอ่อนเป็นอันตราย ทำให้ยางระเบิด ครับควรใช้เครื่องวัดลมยางเช็ค แน่ะนำยางแข็งไม่เกินกะเกณฑ์ ปลอดภัยกว่าไม่ระเบิดแน่นอน
สิ่งที่ผมแน่ะนำให้ควรมีเครื่องไม้เครื่องมือเครื่องวัดลมยางที่น่าจะติดรถเอาไว้ตลอด
สำหรับคุณผู้หญิงเผื่อไว้ให้คนแถวๆนั้นเค้าช่วยเหลือเราได้ อุปกรณ์ครบอุ่นใจดีครับ
-แม่แรง+อุปกรณ์ถอดล้อต่างๆ
-ล้ออะไหล่(ควรตรวจเช็คด้วยเครื่องวัดลมยางให้มากกว่าปกติธรรมดาซักหน่อยเพราะนานๆไปลมยางจะซึมออกมาได้)
-ห้วงน้ำสะอาด1ขวด
-สายพ่วงแบตเตอรี่
-ถุงมือ/ผ้าเช็ดมือ
-ป้ายสะท้อนแสงเดือดร้อนหรือกรวยสะท้อนแสง
กรณีถ้าเป็นคุณผู้หญิงใช้รถคนเดียว ควรพิจารณาเช็คลมยางด้วยเครื่องวัด
ลมยางบ้างเดือนละครั้งนะครับ ว่ามีอะไรสึกหรอไม่ปกติ หรือเยิน หรือไม่
หากรถเกิดเหตุเร่งด่วนควรกดโทรศัพท์บอกคนที่บ้านด้วยทุกครั้งว่า รถเสียที่
ไหน/สาเหตุอะไร/มีใครมาช่วยมั้ย และควรเก็บกุญแจรถ
และของมีค่าเอาไว้ที่ตัวตลอด
เครื่องวัดลมยางมีความสำคัญไม่เพียง แต่จะยืดอายุของยางของคุณ แต่เพื่อความปลอดภัยของคุณเมื่อใช้รถ รถยนต์ที่มีความดันลมยางไม่ถูก
ต้องอาจจะทำให้การยืดเกาะถนนลดลงและเสริมระยะการเบรก โดยการใช้รถของคุณด้วยความดันลมยางที่ไม่ถูกต้องคุณจะยัง
เพิ่มกาลใน การสร้างความเสียหายยาง
และล้อของคุณและอื่นดังต่อไปนี้
อายุการใช้งาน - การสึกหรอของดอกยาง
อายุการใช้งานของยางรถยนต์ของคุณจะสั้นลงเหลือ 75% ถ้ายางของคุณกำลังทำงานอยู่ที่เพียง 80% ของความดันลมยางที่แน่ะนำ
หากปล่อย ให้แรงดันลมยางตกถึง 60% อายุยางจะสั้นลงมากที่สุดใกล้เคียง 35% ของอายุการใช้งานที่ควรจะเป็น
เครื่องแสดงของการที่เราใช้ลมยางไม่ถูก ต้อง คือการที่หน้ายางสึกไม่เท่ากันโดยเฉพาะขอบด้านนอก
ของยางของคุณ หากทิ้งไว้อาจจะทำให้ยางลูกระเบิดได้
ด้านความมั่นคง – ยางแบน ยางระเบิด
เมื่อปล่อยให้แรงดันลมยางไม่เพียงพอที่จะรองรับน้ำหนักของรถ เป็นสาเหตุที่ทำให้แก้ม
ยางถูกบีบอัดโดยน้ำหนักของรถมากเกินไป ทำให้ตัว ยางให้ตัวมากเกินขีดจำกัด นำไปสู่การสร้างความร้อนขึ้นมาในยางอย่างรวดเร็วและ
เพิ่มครั้งทำให้เกิดการระเบิดโดยเฉพาะ
เมื่อใช้ความรวดเร็ว
ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง
หากปล่อยให้ลมยางอ่อนเกินไป จะเป็นการเพิ่มปริมาณหน้าสัมผัสของดอกยางกับพื้นผิวถนน แรงเสียดทานที่เพิ่ม
ขึ้นจึงหมายความว่าความ สามารถของยางที่จะหมุนไปตามพื้นผิวของถนนจะ
ลดลง ซึ่งหมายความว่ารถของคุณจำเป็นต้องใช้พลังงานมากขึ้นที่จะหมุนล้อและยางที่อ่อน เกินนำไปสู่การเพิ่มขึ้นอย่างหนีไม่ได้ในการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง การบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง
ที่เพิ่มขึ้นจะนำไปสู่การปล่อยมลภาวะ เช่นแก๊ส CO2 เพราะฉนั้นควร
ใช้เครื่องวัดลมยาง (http://www.tpmsdiy.com/)และเติมลมยางเพื่อให้ได้แรงดันลมยาง
ที่ถูกต้องสามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกด้วย
ข้อชักนำด้วยเกี่ยวกับการใช้เครื่องวัดลมยาง เหตุการ์ณเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ช่วงสงการ์ณ ยางแบนแล้วไม่รู้ตัววิ่งจนได้กลิ่น
ไอเหม็นไหม้ แล้วรู้สึกว่าเสียงมันดังความเร็วที่วิ่งอยู่ ประมาณ 90-100 ได้ กว่าจะชะลอรถแล้ว หยุดลงมาดู ยางก็ฉีกเป็นเส้นแล้วบางส่วน
เป็นยางล้อหลังซ้าย ท้ายต้องให้Taxiช่วยเปลี่ยนให้เพราะไม่มีแม่แรงขึ้น (รถเพึ่งซื้อต่อมา
ไม่มีแม่แรงให้)แล้วตอนถอดออกมายางร้อนมากจับไม่ได้เลย ต้องเอาน้ำมาลาด โชคยังดีว่ามียางอะหลั่ย เนื่องจากผมปล่อยให้ลมยางอ่อน ไม่
ได้ใช้เครื่องวัดลมยางเช็คตอนบรรทุกหนักถ้าขับเป็นนิตย์ จนชำนาญ รถวิ่งบนทางเรียบ
ยางเริ่มแบน คนขับจะรู้สึกได้ครับ การทรงตัวของรถจะ ปรับเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นล้อไหนก็ตาม
แม้แต่หกล้อ สิบล้อ ล้อหลังรั่ว 1 เส้นก็รับรู้ได้ ถ้าชำนาญพอ ลมยางอ่อนเป็นอันตราย ทำให้ยางระเบิด ครับควรใช้เครื่องวัดลมยางเช็ค แน่ะนำยางแข็งไม่เกินกะเกณฑ์ ปลอดภัยกว่าไม่ระเบิดแน่นอน
สิ่งที่ผมแน่ะนำให้ควรมีเครื่องไม้เครื่องมือเครื่องวัดลมยางที่น่าจะติดรถเอาไว้ตลอด
สำหรับคุณผู้หญิงเผื่อไว้ให้คนแถวๆนั้นเค้าช่วยเหลือเราได้ อุปกรณ์ครบอุ่นใจดีครับ
-แม่แรง+อุปกรณ์ถอดล้อต่างๆ
-ล้ออะไหล่(ควรตรวจเช็คด้วยเครื่องวัดลมยางให้มากกว่าปกติธรรมดาซักหน่อยเพราะนานๆไปลมยางจะซึมออกมาได้)
-ห้วงน้ำสะอาด1ขวด
-สายพ่วงแบตเตอรี่
-ถุงมือ/ผ้าเช็ดมือ
-ป้ายสะท้อนแสงเดือดร้อนหรือกรวยสะท้อนแสง
กรณีถ้าเป็นคุณผู้หญิงใช้รถคนเดียว ควรพิจารณาเช็คลมยางด้วยเครื่องวัด
ลมยางบ้างเดือนละครั้งนะครับ ว่ามีอะไรสึกหรอไม่ปกติ หรือเยิน หรือไม่
หากรถเกิดเหตุเร่งด่วนควรกดโทรศัพท์บอกคนที่บ้านด้วยทุกครั้งว่า รถเสียที่
ไหน/สาเหตุอะไร/มีใครมาช่วยมั้ย และควรเก็บกุญแจรถ
และของมีค่าเอาไว้ที่ตัวตลอด
เครื่องวัดลมยางมีความสำคัญไม่เพียง แต่จะยืดอายุของยางของคุณ แต่เพื่อความปลอดภัยของคุณเมื่อใช้รถ รถยนต์ที่มีความดันลมยางไม่ถูก
ต้องอาจจะทำให้การยืดเกาะถนนลดลงและเสริมระยะการเบรก โดยการใช้รถของคุณด้วยความดันลมยางที่ไม่ถูกต้องคุณจะยัง
เพิ่มกาลใน การสร้างความเสียหายยาง
และล้อของคุณและอื่นดังต่อไปนี้
อายุการใช้งาน - การสึกหรอของดอกยาง
อายุการใช้งานของยางรถยนต์ของคุณจะสั้นลงเหลือ 75% ถ้ายางของคุณกำลังทำงานอยู่ที่เพียง 80% ของความดันลมยางที่แน่ะนำ
หากปล่อย ให้แรงดันลมยางตกถึง 60% อายุยางจะสั้นลงมากที่สุดใกล้เคียง 35% ของอายุการใช้งานที่ควรจะเป็น
เครื่องแสดงของการที่เราใช้ลมยางไม่ถูก ต้อง คือการที่หน้ายางสึกไม่เท่ากันโดยเฉพาะขอบด้านนอก
ของยางของคุณ หากทิ้งไว้อาจจะทำให้ยางลูกระเบิดได้
ด้านความมั่นคง – ยางแบน ยางระเบิด
เมื่อปล่อยให้แรงดันลมยางไม่เพียงพอที่จะรองรับน้ำหนักของรถ เป็นสาเหตุที่ทำให้แก้ม
ยางถูกบีบอัดโดยน้ำหนักของรถมากเกินไป ทำให้ตัว ยางให้ตัวมากเกินขีดจำกัด นำไปสู่การสร้างความร้อนขึ้นมาในยางอย่างรวดเร็วและ
เพิ่มครั้งทำให้เกิดการระเบิดโดยเฉพาะ
เมื่อใช้ความรวดเร็ว
ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง
หากปล่อยให้ลมยางอ่อนเกินไป จะเป็นการเพิ่มปริมาณหน้าสัมผัสของดอกยางกับพื้นผิวถนน แรงเสียดทานที่เพิ่ม
ขึ้นจึงหมายความว่าความ สามารถของยางที่จะหมุนไปตามพื้นผิวของถนนจะ
ลดลง ซึ่งหมายความว่ารถของคุณจำเป็นต้องใช้พลังงานมากขึ้นที่จะหมุนล้อและยางที่อ่อน เกินนำไปสู่การเพิ่มขึ้นอย่างหนีไม่ได้ในการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง การบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง
ที่เพิ่มขึ้นจะนำไปสู่การปล่อยมลภาวะ เช่นแก๊ส CO2 เพราะฉนั้นควร
ใช้เครื่องวัดลมยาง (http://www.tpmsdiy.com/)และเติมลมยางเพื่อให้ได้แรงดันลมยาง
ที่ถูกต้องสามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกด้วย