w4g8r4d5t
January 28th, 2015, 18:43
ร้องทุกข์รักษาผู้บริโภค
เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผมกับภรรยาย้ายบ้านไปอยู่ในหมู่ชนแห่งหนึ่งย่านหลักสี่ ประมาณ กม.ที่ 5-6 ซึ่งมีร้านเกียวกับเครื่องดนตรีที่หน้า ร้านเปิดโล่ง เปิดพลงเล่นเครื่องดนตรี (http://www.musicsupportshop.com)และร้องเพลงดังลั่นมาก ถึงมากที่สุด ช่วงแรกผมไปถามสามัญชนระแวกนั้นว่า ทำไมเค้าถึงเปิดร้าน เครื่องดนตรีแบบนี้ในย่านชุมชนที่มีหมู่บ้านนับร้อยหลังคาเรือน ชาวบ้านบอกว่า เค้าเพิ่งมาเปิดร้านได้ประมาณ 6 เดือน ถ้าไม่มีลูกค้ามาใช้ เครื่องดนตรี เค้าก็จะเปิดเพลงโผงผางแบบนี้ทั้งคืน บางวันก็ดังตี 2 บางวันก็ดังถึงตี 4 โดนบ้านที่ผมอยู่อาศัย อยู่ห่างจากร้านเครื่องดนตรี ประมาณ 20 เดิน และประตูบ้านผมกับหน้าร้านเค้าซึ่งเปิดโล่งไม่มีประตูอยู่ตงข้ามกัน.....คิดเอาเองครับว่า ผมจะทุกข์ทุกข์ระทมแค่ไหน......... และต่อไปนี้ คือลำดับเหตุการณ์ที่ผมทำครับ
1. โทรหา สนXXX เจ้าของพื้นที่ บางทีต้องทนฟังเสียงจากเครื่องดนตรีเพลงในช่วงหัวค่ำนะครับ เพราะบางทีเปิดเพลงตั้งแต่ 2 ทุ่ม และ กว่าจะแจ้งตำรวจได้ก็คงต้องเป็นช่วงยามยามค่ำคืน ผมอาศัยว่าหลัง 4 ทุ่มเป็นเวลาที่ควรต้องเงียบและควรพักผ่อน จึงเอาเวลานั้นโทรแจ้งตำรวจ ที่ เบอร์ 02-5090666 โดยมีคุณดาบตำรวจ คอยผนึกงานให้ ซึ่งนานมากกว่าตำรวจจะมาถึงหรืออาจจะไม่มาเลย โทรหลายรอบเข้า ทั้งคน โทรและตำรวจก็คงจะเบื่อด้วยกันทั้งคู่....ทำไงได้ครับ ก็เดือดร้อนจริงๆ ไม่เป็นหน้าบ้านคุณบ้าง จะได้เข้าใจอารมณ์ของผม...
2. หาวิธีปกป้องรักษาเสียง เสียเงิน 6000 กว่าบาท เพื่อจ้างช่างให้มาเปลี่ยนบานหน้าต่าง เป็นแบบเก็บเสียงจากเครื่องดนตรี โดยบานกระจกหนา และขอบกระจกเป็นยางซิลิโคน ซึ่งก็ปลดเปลื้องเสียงจากเครื่องดนตรีลงได้บ้าง แต่ยังคงได้ยินในลักษณะเบื่อ (noise) ต้องทนอยู่ดี ครับ
3. ไปหาตำรวจให้ช่วยเลยครับ เอาที่บิ๊กๆ ผมขับรถยนต์ไป บก.น2 (กองบังคับการตำรวจนครบาล 2) ไปขอพบท่านผู้กำกับการเลยครับ (มัน สุดจะทนแล้วจริงๆ) กะว่าจะไปเล่ารายละเอียดให้ท่านทราบ เผื่อมีนโยบายช่วยเหลือ แต่สุดท้ายเค้าไม่ให้ผมเข้าพบ แต่ให้ไปพบท่านรองผู้ บังคับการการ (ก็ยังดี) ผมให้รายละเอียดแก่ท่าน และท่านอนุสัญญาว่าจะจัดการให้........ หลังจากนั้น 2 วันถัดมา มีทีมตำรวจเข้ามาที่ร้าน มีการถ่าย รูปหน้าร้านและมีการพูดคุยเจรจาตกลงกัน และตำรวจก็กลับออกไป ใช้เวลาประมาณ 15 นาที (เป็นทีมตำรวจ สน.โคกคราม)..............ได้ ประมาณ 3 วันหลังจากนั้นจากที่ดูจะจะเงียบก็ไม่เงียบอีกแล้ว......ก็ต้องกลับไปใช้วิธีที่ 1 แต่ครั้งนี้ ถามชื่อตำรวจที่รับเรื่อง และถ่ายคลิ ปวิดีโอเป็นหลักฐานเพิ่มเติม
............ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นเวลาช้านานกว่า 1 ปีเศษ ผม ภรรยา และลูก ตลอดจนชาวบ้านละแวกเดียวกัน ต้องตรากตรำกับเสียงเครื่อง ดนตรีดังรำคาญ บางครั้ง เช้าตรู่ พระบิณฑบาตร ก็ยังแหกปากร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน....เฮ้อ ...คิดว่าสิ้นหวังแล้ว ....เฝ้าแต่ เฝ้ารอๆๆๆๆๆๆๆ ว่าวันหนึ่งมันคงจะเจ๊ง และเลิกไปเอง ...แต่จะอีกนานแค่ไหน ?????
จนผมมาพบทางออก เมื่อทราบข้อกฎหมายจากนิติกรท่านหนึ่ง ฝ่ายเทศกิจ ที่อยู่สถานีเขตบางเขน โดยบังเอิญ ท่านแนะนำให้ผมทราบว่า ร้านเครื่องดนตรีจะต้องขอยอมให้ทางเขตเสียก่อน จึงจะเปิดเคลื่อนกิจการ และเป็นข้อมูลให้ผมทำในสิ่งเหล่านี้ และได้ผลครับ เหนื่อยนิดนึง แต่ไม่เกิน 2-4 เดือน (ขึ้นกับการเรา เจ้าหน้าที่ และตำรวจ) ร้านที่ว่านี้ก็ปิดตัวลง....ดีใจมากๆ ขออธิบายเป้นข้อๆ นะครับ
1. ให้คุณถ่ายคลิปภาพและเสียงในช่วงยามวิกาลเช่น เวลา 4 ทุ่ม เที่ยงคืน ตี 2 เป็นต้น เพื่อเป็นข้อยืนยัน จะได้ไม่กล่าวหาลอยๆ และให้คัดลอก ใส่ CD พร้อมเก็บไว้ ทำไว้สัก 2-3 คลิปนะครับ
2. ร่างหนังสือถึง ร้องเรียนการใช้เครื่องดนตรีอึกทึกจากร้านอาหารคาราโอเกะดังกล่าว โดยให้เรียนถึงผู้อำนวยเขต (ของผมเขตบางเขน) พร้อมเขียนแผนที่ของร้านเครื่องดนตรีดังกล่าว ประณีตแนบไปด้วย
3. คุณต้องสละเวลาไปที่สำนักงานเขตนะครับ และเดินตรงไปยังฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล จะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องของท่านไว้ โดยให้นำ บันทึกร้องเรียน 1 ฉบับจากข้อ 2 +สำเนาคัมภีร์ร้องเรียนอีก 1 ฉบับ+ CD ที่ท่านอัดไว้ ยื่นแก่พนักงาน โดยในส่วนของคัดลอกหนังสือ ร้องเรียน 1 ฉบับนั้น ให้มอบแก่เจ้าหน้าที่เพื่อเซ็นชื่อว่าได้รับเอกสารของท่านแล้ว และให้เอาเอกสารนั้นกลับมา เพื่อเป็นหลักฐานในการ รับเรื่องร้องเรียนของท่านครับ
4. ต่อจากนี้ ทางเขตจะส่งเจ้าพนักงานมาสังเกตการณ์ว่า ข้อมูลที่ท่านแจ้งนั้น มีข้อพิสูจน์ตามที่แจ้งหรือไม่ ท่านสามารถโทรไปสืบถามความ คืบหน้าได้เป็นระยะ แต่ในกรณีของผม ทางเขตโทรมาแจ้งเลยว่า ทางเขตตรวจสอบแล้ว พบว่า เปิดเป็นร้านเครื่องดนตรี ที่ไม่ได้รับอนุญาต เครื่องเล่นคาราโอเกะถูกต้องลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย (นึกว่าเค้าจะละเมิดลิขสิทธิ์) และมีโผงรำคาญจริง จึงได้ทำหนังสือแจ้งแก่เจ้าของตึกหรือ เจ้าของการงานนั้นทราบ เพื่อปรับปรุงภายใน 30 วัน ....ผมดีใจมากครับ คุณคิดดูนะครับ ผมต้องทนกับดังลั่นแบบนี้ทุกวัน วันแล้ววันเล่า บางวันนอนผวา ว่าเมื่อไหร่อึกทึกจะเริ่มขึ้น......คิดถึงตอนนั้น มันท้อใจจริงๆ
5.พอทางร้านเครื่องดนตรีได้รับจดหมาย ปฏิกิริยาก็ออก คือเจ้าตัวก็โวยวายพาลด่าคนโน้น ด่าคนนี้ไปทั่ว ประมาณว่า "ใครว่ะ พวก...มีอะไร หรือไง .....หยาบคายๆๆๆๆ" ผมได้ยินก็เฉยๆครับ รอดูท่าทางห่างๆ....
6. ในช่วงเวลานี้ เค้าเหมือนจะกลัว เพราะในรายงานระบุว่า หากฝ่าฝืนจะฟ้องทั้งจำและปรับ ....ผมก็เฝ้าแต่แลดูว่า เครื่องดนตรีจะเริ่ม เสียงดังอีกวันไหน..... มีบ้างบางวันผีเข้า ก็เปิดเพลงร้องเอง...เปิดเพลงเต้นเอง..... บางวันก็เต็มที่เลย ดังสนั่นครึกโครม...แต่ผมก็ไม่ได้ลด มาตรฐานครับ ถ้ามีเสียงดัง ผมก็โทรไป สน. เช่นเดิมครับ เพราะตอนหลัง สน. เริ่มจะเอือมกับเค้าแล้ว (หรือเอือมกับผม ? แต่หวังว่าทุกท่าน ที่อ่านจะเข้าใจอารมณ์ผมตอนนั้นนะครับ) กับการที่ผมโทรหาตำรวจบ่อยๆ นายดาบตำรวจท่านนี้น่าจะจำเสียงผมได้ ช่วงหลังก็เลยจัดเจ้า หน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุทุกครั้ง เริ่มดีใจกับผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ดีๆ นายนี้
7. เลยระยะเวลาครบ 30 วัน ผมโทรไปหาฝ่ายสิ่งแวดล้อม ว่าเรื่องถึงไหนแล้ว ทางเขตเอื้อนว่า ทางเขตทำเรื่องถึง สน.โคกคราม ในการแจ้ง ความเอาผิดเจ้าของร้านที่ขัดระเบียบข้อบังคับ โดยอยู่ระหว่างการประสานงาน เพื่อเข้าไปให้ปากคำและทำสำนวนฟ้องศาลต่อไป.....ในขั้น ตอนนี้ ผมรอประมาณ 2 อาทิตย์ปรากฎว่า ทาง สน. ไม่เรียกให้ฝ่ายสิ่งแวดล้อมไปให้ข้อเท็จจริง...ผมไม่รีรอที่จะโทรไปหาตำรวจที่ สน.โคกคราม และแจ้งแก่ทาง สน.ในนามของเขตบางเขน ว่าท่านจะหมูให้ทางเขตมาให้ปากคำตอนไหน ซึ่งสรุปแล้ว ผมเป็นธุระให้ทั้งตำรวจและฝ่าย สิ่งแวดล้อมมาเจอกัน ตอนท้ายก็นัดวันได้บรรลุผล ทุกฝ่ายมาเจอกัน และทำสำนวนดำเนินคดีศาลครับ (ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ครับ คนประเภทนี้ถึงจะกลัว)
8. รออีกประมาณ 1-2 อาทิตย์ มีหนังสือจากศาลสั่งให้หยุดและระงับกิจการไปจนกว่าจะปรับปรุงร้านให้มีความเหมาะสม โดยไม่เป็นการ รบกวนคนอื่นให้ได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจ
9. พอเค้าได้รับจดหมายจากศาล ทุกอย่างก็ยอมไปโดยศิโรราบ ไม่เปิดเพลง ขายเหล้า แกล้มแบบเงียบๆ แต่ยังคงเปิดร้านเลยตี 2 ทุก คน.....จนกระทั่ง กิจการต่างๆ ก็ค่อยจบลงไปด้วยดี
เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผมกับภรรยาย้ายบ้านไปอยู่ในหมู่ชนแห่งหนึ่งย่านหลักสี่ ประมาณ กม.ที่ 5-6 ซึ่งมีร้านเกียวกับเครื่องดนตรีที่หน้า ร้านเปิดโล่ง เปิดพลงเล่นเครื่องดนตรี (http://www.musicsupportshop.com)และร้องเพลงดังลั่นมาก ถึงมากที่สุด ช่วงแรกผมไปถามสามัญชนระแวกนั้นว่า ทำไมเค้าถึงเปิดร้าน เครื่องดนตรีแบบนี้ในย่านชุมชนที่มีหมู่บ้านนับร้อยหลังคาเรือน ชาวบ้านบอกว่า เค้าเพิ่งมาเปิดร้านได้ประมาณ 6 เดือน ถ้าไม่มีลูกค้ามาใช้ เครื่องดนตรี เค้าก็จะเปิดเพลงโผงผางแบบนี้ทั้งคืน บางวันก็ดังตี 2 บางวันก็ดังถึงตี 4 โดนบ้านที่ผมอยู่อาศัย อยู่ห่างจากร้านเครื่องดนตรี ประมาณ 20 เดิน และประตูบ้านผมกับหน้าร้านเค้าซึ่งเปิดโล่งไม่มีประตูอยู่ตงข้ามกัน.....คิดเอาเองครับว่า ผมจะทุกข์ทุกข์ระทมแค่ไหน......... และต่อไปนี้ คือลำดับเหตุการณ์ที่ผมทำครับ
1. โทรหา สนXXX เจ้าของพื้นที่ บางทีต้องทนฟังเสียงจากเครื่องดนตรีเพลงในช่วงหัวค่ำนะครับ เพราะบางทีเปิดเพลงตั้งแต่ 2 ทุ่ม และ กว่าจะแจ้งตำรวจได้ก็คงต้องเป็นช่วงยามยามค่ำคืน ผมอาศัยว่าหลัง 4 ทุ่มเป็นเวลาที่ควรต้องเงียบและควรพักผ่อน จึงเอาเวลานั้นโทรแจ้งตำรวจ ที่ เบอร์ 02-5090666 โดยมีคุณดาบตำรวจ คอยผนึกงานให้ ซึ่งนานมากกว่าตำรวจจะมาถึงหรืออาจจะไม่มาเลย โทรหลายรอบเข้า ทั้งคน โทรและตำรวจก็คงจะเบื่อด้วยกันทั้งคู่....ทำไงได้ครับ ก็เดือดร้อนจริงๆ ไม่เป็นหน้าบ้านคุณบ้าง จะได้เข้าใจอารมณ์ของผม...
2. หาวิธีปกป้องรักษาเสียง เสียเงิน 6000 กว่าบาท เพื่อจ้างช่างให้มาเปลี่ยนบานหน้าต่าง เป็นแบบเก็บเสียงจากเครื่องดนตรี โดยบานกระจกหนา และขอบกระจกเป็นยางซิลิโคน ซึ่งก็ปลดเปลื้องเสียงจากเครื่องดนตรีลงได้บ้าง แต่ยังคงได้ยินในลักษณะเบื่อ (noise) ต้องทนอยู่ดี ครับ
3. ไปหาตำรวจให้ช่วยเลยครับ เอาที่บิ๊กๆ ผมขับรถยนต์ไป บก.น2 (กองบังคับการตำรวจนครบาล 2) ไปขอพบท่านผู้กำกับการเลยครับ (มัน สุดจะทนแล้วจริงๆ) กะว่าจะไปเล่ารายละเอียดให้ท่านทราบ เผื่อมีนโยบายช่วยเหลือ แต่สุดท้ายเค้าไม่ให้ผมเข้าพบ แต่ให้ไปพบท่านรองผู้ บังคับการการ (ก็ยังดี) ผมให้รายละเอียดแก่ท่าน และท่านอนุสัญญาว่าจะจัดการให้........ หลังจากนั้น 2 วันถัดมา มีทีมตำรวจเข้ามาที่ร้าน มีการถ่าย รูปหน้าร้านและมีการพูดคุยเจรจาตกลงกัน และตำรวจก็กลับออกไป ใช้เวลาประมาณ 15 นาที (เป็นทีมตำรวจ สน.โคกคราม)..............ได้ ประมาณ 3 วันหลังจากนั้นจากที่ดูจะจะเงียบก็ไม่เงียบอีกแล้ว......ก็ต้องกลับไปใช้วิธีที่ 1 แต่ครั้งนี้ ถามชื่อตำรวจที่รับเรื่อง และถ่ายคลิ ปวิดีโอเป็นหลักฐานเพิ่มเติม
............ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นเวลาช้านานกว่า 1 ปีเศษ ผม ภรรยา และลูก ตลอดจนชาวบ้านละแวกเดียวกัน ต้องตรากตรำกับเสียงเครื่อง ดนตรีดังรำคาญ บางครั้ง เช้าตรู่ พระบิณฑบาตร ก็ยังแหกปากร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน....เฮ้อ ...คิดว่าสิ้นหวังแล้ว ....เฝ้าแต่ เฝ้ารอๆๆๆๆๆๆๆ ว่าวันหนึ่งมันคงจะเจ๊ง และเลิกไปเอง ...แต่จะอีกนานแค่ไหน ?????
จนผมมาพบทางออก เมื่อทราบข้อกฎหมายจากนิติกรท่านหนึ่ง ฝ่ายเทศกิจ ที่อยู่สถานีเขตบางเขน โดยบังเอิญ ท่านแนะนำให้ผมทราบว่า ร้านเครื่องดนตรีจะต้องขอยอมให้ทางเขตเสียก่อน จึงจะเปิดเคลื่อนกิจการ และเป็นข้อมูลให้ผมทำในสิ่งเหล่านี้ และได้ผลครับ เหนื่อยนิดนึง แต่ไม่เกิน 2-4 เดือน (ขึ้นกับการเรา เจ้าหน้าที่ และตำรวจ) ร้านที่ว่านี้ก็ปิดตัวลง....ดีใจมากๆ ขออธิบายเป้นข้อๆ นะครับ
1. ให้คุณถ่ายคลิปภาพและเสียงในช่วงยามวิกาลเช่น เวลา 4 ทุ่ม เที่ยงคืน ตี 2 เป็นต้น เพื่อเป็นข้อยืนยัน จะได้ไม่กล่าวหาลอยๆ และให้คัดลอก ใส่ CD พร้อมเก็บไว้ ทำไว้สัก 2-3 คลิปนะครับ
2. ร่างหนังสือถึง ร้องเรียนการใช้เครื่องดนตรีอึกทึกจากร้านอาหารคาราโอเกะดังกล่าว โดยให้เรียนถึงผู้อำนวยเขต (ของผมเขตบางเขน) พร้อมเขียนแผนที่ของร้านเครื่องดนตรีดังกล่าว ประณีตแนบไปด้วย
3. คุณต้องสละเวลาไปที่สำนักงานเขตนะครับ และเดินตรงไปยังฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล จะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องของท่านไว้ โดยให้นำ บันทึกร้องเรียน 1 ฉบับจากข้อ 2 +สำเนาคัมภีร์ร้องเรียนอีก 1 ฉบับ+ CD ที่ท่านอัดไว้ ยื่นแก่พนักงาน โดยในส่วนของคัดลอกหนังสือ ร้องเรียน 1 ฉบับนั้น ให้มอบแก่เจ้าหน้าที่เพื่อเซ็นชื่อว่าได้รับเอกสารของท่านแล้ว และให้เอาเอกสารนั้นกลับมา เพื่อเป็นหลักฐานในการ รับเรื่องร้องเรียนของท่านครับ
4. ต่อจากนี้ ทางเขตจะส่งเจ้าพนักงานมาสังเกตการณ์ว่า ข้อมูลที่ท่านแจ้งนั้น มีข้อพิสูจน์ตามที่แจ้งหรือไม่ ท่านสามารถโทรไปสืบถามความ คืบหน้าได้เป็นระยะ แต่ในกรณีของผม ทางเขตโทรมาแจ้งเลยว่า ทางเขตตรวจสอบแล้ว พบว่า เปิดเป็นร้านเครื่องดนตรี ที่ไม่ได้รับอนุญาต เครื่องเล่นคาราโอเกะถูกต้องลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย (นึกว่าเค้าจะละเมิดลิขสิทธิ์) และมีโผงรำคาญจริง จึงได้ทำหนังสือแจ้งแก่เจ้าของตึกหรือ เจ้าของการงานนั้นทราบ เพื่อปรับปรุงภายใน 30 วัน ....ผมดีใจมากครับ คุณคิดดูนะครับ ผมต้องทนกับดังลั่นแบบนี้ทุกวัน วันแล้ววันเล่า บางวันนอนผวา ว่าเมื่อไหร่อึกทึกจะเริ่มขึ้น......คิดถึงตอนนั้น มันท้อใจจริงๆ
5.พอทางร้านเครื่องดนตรีได้รับจดหมาย ปฏิกิริยาก็ออก คือเจ้าตัวก็โวยวายพาลด่าคนโน้น ด่าคนนี้ไปทั่ว ประมาณว่า "ใครว่ะ พวก...มีอะไร หรือไง .....หยาบคายๆๆๆๆ" ผมได้ยินก็เฉยๆครับ รอดูท่าทางห่างๆ....
6. ในช่วงเวลานี้ เค้าเหมือนจะกลัว เพราะในรายงานระบุว่า หากฝ่าฝืนจะฟ้องทั้งจำและปรับ ....ผมก็เฝ้าแต่แลดูว่า เครื่องดนตรีจะเริ่ม เสียงดังอีกวันไหน..... มีบ้างบางวันผีเข้า ก็เปิดเพลงร้องเอง...เปิดเพลงเต้นเอง..... บางวันก็เต็มที่เลย ดังสนั่นครึกโครม...แต่ผมก็ไม่ได้ลด มาตรฐานครับ ถ้ามีเสียงดัง ผมก็โทรไป สน. เช่นเดิมครับ เพราะตอนหลัง สน. เริ่มจะเอือมกับเค้าแล้ว (หรือเอือมกับผม ? แต่หวังว่าทุกท่าน ที่อ่านจะเข้าใจอารมณ์ผมตอนนั้นนะครับ) กับการที่ผมโทรหาตำรวจบ่อยๆ นายดาบตำรวจท่านนี้น่าจะจำเสียงผมได้ ช่วงหลังก็เลยจัดเจ้า หน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุทุกครั้ง เริ่มดีใจกับผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ดีๆ นายนี้
7. เลยระยะเวลาครบ 30 วัน ผมโทรไปหาฝ่ายสิ่งแวดล้อม ว่าเรื่องถึงไหนแล้ว ทางเขตเอื้อนว่า ทางเขตทำเรื่องถึง สน.โคกคราม ในการแจ้ง ความเอาผิดเจ้าของร้านที่ขัดระเบียบข้อบังคับ โดยอยู่ระหว่างการประสานงาน เพื่อเข้าไปให้ปากคำและทำสำนวนฟ้องศาลต่อไป.....ในขั้น ตอนนี้ ผมรอประมาณ 2 อาทิตย์ปรากฎว่า ทาง สน. ไม่เรียกให้ฝ่ายสิ่งแวดล้อมไปให้ข้อเท็จจริง...ผมไม่รีรอที่จะโทรไปหาตำรวจที่ สน.โคกคราม และแจ้งแก่ทาง สน.ในนามของเขตบางเขน ว่าท่านจะหมูให้ทางเขตมาให้ปากคำตอนไหน ซึ่งสรุปแล้ว ผมเป็นธุระให้ทั้งตำรวจและฝ่าย สิ่งแวดล้อมมาเจอกัน ตอนท้ายก็นัดวันได้บรรลุผล ทุกฝ่ายมาเจอกัน และทำสำนวนดำเนินคดีศาลครับ (ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ครับ คนประเภทนี้ถึงจะกลัว)
8. รออีกประมาณ 1-2 อาทิตย์ มีหนังสือจากศาลสั่งให้หยุดและระงับกิจการไปจนกว่าจะปรับปรุงร้านให้มีความเหมาะสม โดยไม่เป็นการ รบกวนคนอื่นให้ได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจ
9. พอเค้าได้รับจดหมายจากศาล ทุกอย่างก็ยอมไปโดยศิโรราบ ไม่เปิดเพลง ขายเหล้า แกล้มแบบเงียบๆ แต่ยังคงเปิดร้านเลยตี 2 ทุก คน.....จนกระทั่ง กิจการต่างๆ ก็ค่อยจบลงไปด้วยดี