PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : เก็บข่าวคราวเกี่ยวกับข่าวสารโรคเอดส์มาให้ศึกษาติดตามหวังว่าคงมีอรรถประโยชน์ครับ



jesokjin391
April 7th, 2015, 17:26
ผอ.สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค สาธารณสุขพูดคุยในรายการ Night Time Report เกี่ยวข้องสภาวการณ์โรคเอดส์ในประเทศไทย
รายการ Night Time Report ทางช่อง MONO29 ได้เชิญนายแพทย์สุเมธ องค์วรรณดี ผอ.สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข เข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับสถาณการณ์โรคเอดส์ในประเทศไทย
โดย นพ.สุเมธ ได้เผยว่า นับตั้งแต่จุดเริ่มต้น ของการแพร่กระจายเมื่อประมาณ 30 ปี ที่แล้ว มีผู้ติดเชื้อโดยประมาณ 1.2 ล้านคน โดยในจำนวนนี้ยังดำรงชีวิตอยู่ประมาณ 4.5 แสนคน ส่วนการติดเชื้อลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขในอดีตอย่างมาก เนื่องจากมาตรการการรณรงค์การใช้ถุงยางอนามัยในการป้องกันการติดต่อ และนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ผลิตออกมา อาธิเช่น ยาระงับการแพร่เชื้อเป็นต้น
นอกจากนี้ยังได้มีการพูดถึงสภาพการณ์การแพร่ระบาดจากทั่วโลก โดยนพ.สุเมธ ได้เผยต่อไปว่าความรุนแรงจะอยู่ในภูมิภาค แอฟริกา ที่ถือว่ามีตัวเลขกว่า 60-70 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ติดเชื้อทั่วโลก ส่วนประเทศไทย เป็นอับดับ 2 รองลงมา เนื่องจากว่าการเข้ายาต้านและการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานทางระบบสาธารณสุขในแอฟริกา ถือได้ว่าน้อยกว่าประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะได้เงินทุนในการพัฒนาและแก้ไขปัญหามาจากต่างประเทศโดยส่วนใหญ่
ซึ่งในวันที่ 1 ธันวาคมของทุกปีถือได้ว่าเป็นวันเอดส์โลก ทั้งนี้ทั่วโลกจะทำการรำลึกถึงคนที่ตายจากเชื้อดังกล่าว สภากาชาดไทยร่วมกับกรมควบคุมโรค จัด ‘งานเทียนส่องใจ’ ที่หอศิลปวัฒนธรรม และจะมีการจุดเทียนเพื่อรำลึก รวมถึงการออกร้านแหล่งรวมความรู้เกี่ยวข้องไวรัสชนิดนี้
ถึงอย่างไรปัจจุบันนี้ผู้ติดเชื้อสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม สามารถเรีนยหนังสือ ทำงาน และเชื้อนี้ไม่ได้ติดได้ง่ายๆ และสถานการณ์ปัจจุบันเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป
ขอบคุณที่มาจาก : MThai


ยันไม่มีน้ำสมุนไพรรักษาโรคเอดส์
นายยงยุทธ์ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี พูดภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ว่า ในปี 2573 ไทยจะต้องยุติปัญหาเอดส์โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่เกินปีละ 1,000 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อ และลดการตีตรา เลือกปฏิบัติ และเพื่อให้การดำเนินงานประสบประสิทธิผล คณะกรรมการฯจึงอนุมัติในหลักการให้เสนอของบประมาณเพิ่มเติมอีก 1,700-1,900 ล้านบาท
ด้านนายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ประเทศไทย กล่าวว่า ไทยมีความก้าวหน้าเรื่องการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีจริง แต่อยากให้รุดหน้าระบบการตรวจเลือดให้รู้ผลภายใน 1 วัน ซึ่ง จะตอบโจทย์เรื่องการรู้เร็วรักษาได้ และที่สำคัญต้องลดเรื่องการตีตรา และอยู่ร่วมกันในสังคมได้เป็นปกติ เช่น กรณีชาวชุมชนหลังเนิน จ.ชลบุรี รวมตัว กันให้จัดการเรื่องสุขาภิบาลในที่ตั้งกระท่อมพระศิริ ที่รับเอาคนไข้โรคเอดส์ประมาณ 40 คนเข้ามาดูแลนั้น ความจริงตรงนี้ตนไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะเหมือนกับว่าผู้ป่วยไม่สามารถอยู่ร่วมได้กับชุมชน เพราะฉะนั้นตรงนี้อยากให้มีการสร้างความรู้ร่วมกันให้มากกว่า ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่รับยาต้านไวรัสซีดี 4 อย่างเสมอต้นเสมอปลายก็มีชีวิตได้ตามปกติ และไม่แพร่เชื้อสู่ผู้อื่น นอกจากนี้ ตนยังกังวลเรื่องการโฆษณาว่ามีสมุนไพร และน้ำแร่ต่างๆ อ้างผลการรักษาโรคเอดส์ (http://www.hibstation.com/articles/42209117/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1CD4-%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B9%8C.html)ให้หายขาดได้จนทำให้คนไข้เสียโอกาสในการรักษา ไม่เอาใจใส่การรับยาต้านไวรัสเอชไอวีจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิต อยากให้หน่วยงานต่างๆให้ความสำคัญเร่งแก้ปัญหาด้วย
ขณะที่ นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผอ.ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า การสื่อโฆษณาเรื่องยาสมุนไพร หรือน้ำแร่ น้ำอื่นๆ นั้นน่าเป็นห่วง เพราะอ้างว่าอาจรักษาโรคเอดส์ให้หายขาดได้ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามรับประทานยาอื่น ร่วม ทำให้ผู้ป่วยเป็นเหยื่อจำนวนมาก ปัญหาที่ตามมาคือการดื้อต่อยาต้านไวรัสเอชไอวี ซึ่งขอยืนยันว่าไม่มีน้ำหรือสมุนไพรตัวไหนที่มีผลการศึกษาว่ารักษาโรคเอดส์ให้หายขาดได้
ขอบคุณที่มาจาก : ไทยรัฐออนไลน์


'เพร็พ' รักษาเอชไอวีแบบใหม่เอี่ยม
จากสถิติเมื่อปี พ.ศ.2555 พบว่ามีกลุ่มชายรักชายไทยที่พักอยู่ในกรุงเทพมหานครอัตราเฉลี่ย 1 ใน 3 ติดเชื้อเอชไอวี และคิดว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะมีผู้ติดเชื้อใหม่ในกลุ่มนี้มากขึ้น อาจจะทำให้อัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 54 ด้วยเหตุนี้ อดัมส์เลิฟ (www.adamslove.org) แผนรณรงค์สุขภาพของชายรักชาย จึงร่วมกันกับ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ดำเนินต่อปฏิบัติการเชิงรุก ด้วยการเปิดตัวบริการใหม่ล่าสุด “เพร็พ-30” หรือการจ่ายยาต้านไวรัสเพื่อป้องกัน “ก่อน” การสัมผัสเชื้อเอชไอวี หรือที่เรียกว่า “เพร็พ” ให้กับชาวไทยและชาวต่างแดน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของโปรแกรมป้องกันเอชไอวีที่ประกอบด้วยการให้ข้อคิดเห็น การตรวจเอชไอวี ตรวจไวรัสตับอักเสบบี และตรวจการทำงานของไต ตลอดจนให้ข้อเสนอแนะด้านการใช้ถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่น ด้วยค่าบริการเพียง 30 บาทต่อวัน ที่คลินิกนิรนาม ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทยโดย “เพร็พ” ยังได้รับการพิสูจน์จากกระทรวงสาธารณสุข และได้รับการพิสูจน์ทางคลินิกแล้วว่า สามารถลดความเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไอวีได้มากถึง 90 เปอร์เซ็นต์เมื่อทานอย่างต่อเนื่อง
ศ.กิตติคุณ นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า เพร็พ คือวิธีการป้องกันเอชไอวีที่มีศักยภาพ และควรใช้พร้อมกันกับการใช้ถุงยางอนามัย เพื่อลดอัตราความเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไอวีลงให้ได้มากที่สุด ถึงอย่างไร เพร็พ ก็ไม่ได้มาทดแทนการใช้ถุงยางอนามัย และไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ได้
อดัมส์เลิฟ ได้รับการอุปถัมภ์จากกองทุนแมคเอดส์ฟันด์ โดยมีโครงการที่จะประชาสัมพันธ์บริการ “เพร็พ-30” ไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนช่วงงานเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงในเดือนเมษายนนี้ให้กับชายรักชาย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่วางแผนจะมาท่องเที่ยวเทศกาลสงกรานต์และอาจมีความประพฤติที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี โดยทางอดัมส์เลิฟได้เตรียมพร้อมให้บริการคำแนะนำออนไลน์ และความช่วยเหลือสำหรับผู้ที่ต้องการมารับบริการเพร็พ ทางเว็บไซต์ www.adamslove.org ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากเกย์ทั่วโลก ในฐานะแหล่งข้อมูลด้านเอชไอวีที่น่าเชื่อถือมากที่สุด โดยตั้งแต่เปิดตัวมาเมื่อเดือนกันยายน 2554 เว็บไซต์มียอดผู้เข้าชมกว่า 1.3 ล้านคนจากทั่วโลก มีการคลิกดูข้อมูลรวมกว่า 149 ล้านครั้ง รวมทั้งมีคนที่เปิดอ่านถึง 11 ล้านหน้า
ยิ่งไปกว่านี้ ยังได้รับทุนส่งเสริมจากองค์กรวิฟ เฮลท์แคร์ และมูลนิธิเพื่อการศึกษาวิจัยด้านโรคเอดส์แห่งสหรัฐอเมริกา ในการขยายแผนไปยังประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย ภายใต้ชื่อ “TemanTeman.org” เพื่อช่วยหยุดการแพร่กระจายของเอชไอวี และโรคเอดส์ในถิ่นนี้ และมีแนวทางที่จะขยายไปยังไต้หวันภายในสิ้นปี 2558 อีกด้วย
ขอบคุณที่มาจาก : คม ชัด ลึก ออนไลน์

http://upic.me/i/6i/baids.jpg (http://upic.me/show/55148777)