gongoon
July 15th, 2015, 11:16
ในยุคประจุบันคงต้องยอมรับว่าเป็นยุคแห่งการแข่งขันในเชิงเศรษฐกิจที่สูงมากกว่าในอดีตซึ่งการค้ายุคนั้นมักจะ
เป็นการจำหน่ายแบบผูกขาดเฉพาะกลุ่มคน สินค้ารวมถึงการแข่งขันไม่มากเท่ากับตอนนี้ ทั้งนี้มีการปลุกกระแสค่านิยมการ
เป็นเจ้านายตนเองหรือผู้ผลิตมีมากยิ่งขึ้นเห็นได้จากหนังสือยอดนิยมตามร้านหนังสือหรือแม้กระทั่งรายการโทรทัศน์
แต่ในโลกแห่งการขับเคี่ยวนั้นกลับไม่ได้แข่งขันกันอย่างซื่อสัตย์สุจริตเท่านั้น มีหลากหลายกลุ่มคนที่นิยมคัดลอกความคิดและ
ผลิตภัณฑ์ของผู้อื่นและนำมาออกตัวในราคาที่ถูกกว่าจนทำให้ผู้ประกอบการค้าหลายคนถึงกับท้อแท้หมดหวัง จนกระทั่งมีการ
ปฏิรูปเทคโนโลยีกันปลอมขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “สติ๊กเกอร์กันปลอม (http://www.proprintshops.com/สติ๊กเกอร์กันปลอม--โฮโลแกรม/สติ๊กเกอร์กันปลอม--โฮโลแกรม.html)” ที่จะกล่าวถึงต่อไป
การปลอมแปลงสินค้าของผู้อื่นมีแตกต่างกันไปมากมายวิธี เริ่มจากการคัดลอกสินค้าและบรรจุภัณฑ์แต่เปลี่ยนชื่อ
แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อสามารถใช้ช่องว่างทางกฎหมายกับผลิตภัณฑ์ประเภทไม่ได้จดลิขสิทธิ์เทคโนโลยี แต่สินค้าประเภทนี้อาจจะ
กระทบต่อผู้ผลิตตัวจริงไม่มากนักเพราะผู้บริโภคมักเชื่อถือในสินค้าในผู้ผลิตตัวจริงมากกว่า แต่ที่น่ากลัวที่สุดนั่นก็คือการ
คัดลอกสินค้าทั้งหมดในตัวผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ทำให้เหล่าผู้บริโภคเกิดจากสับสนและซื้อสินค้าไม่ถูกต้องไปใช้งานซึ่ง
ส่งผลต่อบรรดาผู้ผลิตโดยตรง จึงเกิดการใช้เทคโนโลยีการกันปลอมสินค้าขึ้นซึ่งที่ง่ายที่สุด คือ สติ๊กเกอร์กันปลอม เพราะ
เพียงแค่นำมาติดและไม่ยุ่งยากและสามารถป้องกันปลอมแปลงสินค้าได้มีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง
“สติ๊กเกอร์กันปลอม” หากท่านยังนึกไม่ออกขอให้นึกถึงสติ๊กเกอร์ที่เงินที่อยู่หน้ากล่องผลิตภัณฑ์ที่มักจะเรืองแสง
และมีแบรนด์สินค้าระบุภายในคงทราบได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งสติ๊กเกอร์แบบนี้เรียกว่าสติ๊กเกอร์แบบโฮโลแกรมประเภทหนึ่ง
แท้จริงแล้วสติ๊กเกอร์กันปลอมมีมากมายหลายแบบ แต่เมื่อสังเกตด้านการใช้งานสามารถจับได้เป็นสองแบบใหญ่ๆ
คือ แบบแรกสติ๊กเกอร์กันปลอมเพื่อแสดงเอกลักษณ์ นั่นคือสติ๊กเกอร์ที่ระบุว่าหากมีสติ๊กเกอร์นี้ติดที่ตัวผลิตภัณฑ์จะเป็นของ
แท้ ซึ่งสติ๊กเกอร์แบบนี้มักนิยมใช้โฮโลแกรมหรือสีเงินที่เห็นเป็นประจำซึ่งคือเทคโนโลยีการฉายภาพลงฟิล์ม ซึ่งหากมอง
สติ๊กเกอร์ในหลายๆ มุมจะเห็นภาพที่แตกต่างกันตามที่ผู้ผลิตต้องการโดยอาจจะมีการแฝงรหัส หรือภาพและสีเปลี่ยนไปก็
ได้ ซึ่งหากเป็นของแท้ตัวสติ๊กเกอร์มีภาพเป็นไปตามที่ผู้ประกอบการค้ากำหนดไว้
ส่วนต่อมาคือสติ๊กเกอร์กันการลอกสติ๊กเกอร์ออก ซึ่งแบบนี้นั้นมักจะใช้ค้นหาตำแหน่งที่อยู่บริเวณฝากล่อง
บรรจุภัณฑ์หรือบริเวณตัวรอยต่อของสินค้าเพื่อกันการแกะ ซึ่งสติ๊กเกอร์แบบนี้จะเป็นแบบโฮโลแกรมหรือธรรมดาก็ได้
แต่คุณสมบัติคือหากแกะสลักออกแล้วจะไม่สามารถใช้ได้อีก เท่าที่พบเห็นเป็นประจำคือแกะแล้วกาวเสื่อมสภาพ สติ๊กเกอร์ขาด
และเสียหาย หรือที่นิยมที่สุดคือทิ้งลายกาวอาจจะเป็นคำว่า “Void” หรือ ชื่อเฉพาะของสินค้าโดยแบบนี้มักใช้พิสูจน์
ความเป็นเอกลักษณ์ก็ได้ด้วย
เหตุที่สติ๊กเกอร์กันปลอมเป็นที่นิยมมากกว่าแบบอื่นๆ ไม่เพียงเพราะสนนราคาเท่านั้น แต่เป็นการป้องกันการ
ลักลอบนำสินค้าไปจำหน่ายเองของผู้ผลิตสินค้าของเรา เช่น บางรายใช้เทคโนโลยีกันปลอมลงบนบรรจุภัณฑ์แต่ผลิตภัณฑ์ถูก
ลักลอบออกไปจำหน่ายทำให้ผลิตภัณฑ์กลายเป็นของจริง เป็นต้น ซึ่งเราสามารถแก้ไขได้เพียงเพิ่มกระบวนการติดสติ๊กเกอร์
เพื่อป้องกันการลักลอบจำหน่ายก็สามารถทำได้ การใช้สติ๊กเกอร์กันปลอมนั้นแม้จะเป็นการสิ้นเปลืองและ
เพิ่มต้นทุนแต่ก็นับว่าเป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดได้อย่างแน่นอน
http://s3.postimg.org/jj75kr8pb/image.jpg
เป็นการจำหน่ายแบบผูกขาดเฉพาะกลุ่มคน สินค้ารวมถึงการแข่งขันไม่มากเท่ากับตอนนี้ ทั้งนี้มีการปลุกกระแสค่านิยมการ
เป็นเจ้านายตนเองหรือผู้ผลิตมีมากยิ่งขึ้นเห็นได้จากหนังสือยอดนิยมตามร้านหนังสือหรือแม้กระทั่งรายการโทรทัศน์
แต่ในโลกแห่งการขับเคี่ยวนั้นกลับไม่ได้แข่งขันกันอย่างซื่อสัตย์สุจริตเท่านั้น มีหลากหลายกลุ่มคนที่นิยมคัดลอกความคิดและ
ผลิตภัณฑ์ของผู้อื่นและนำมาออกตัวในราคาที่ถูกกว่าจนทำให้ผู้ประกอบการค้าหลายคนถึงกับท้อแท้หมดหวัง จนกระทั่งมีการ
ปฏิรูปเทคโนโลยีกันปลอมขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “สติ๊กเกอร์กันปลอม (http://www.proprintshops.com/สติ๊กเกอร์กันปลอม--โฮโลแกรม/สติ๊กเกอร์กันปลอม--โฮโลแกรม.html)” ที่จะกล่าวถึงต่อไป
การปลอมแปลงสินค้าของผู้อื่นมีแตกต่างกันไปมากมายวิธี เริ่มจากการคัดลอกสินค้าและบรรจุภัณฑ์แต่เปลี่ยนชื่อ
แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อสามารถใช้ช่องว่างทางกฎหมายกับผลิตภัณฑ์ประเภทไม่ได้จดลิขสิทธิ์เทคโนโลยี แต่สินค้าประเภทนี้อาจจะ
กระทบต่อผู้ผลิตตัวจริงไม่มากนักเพราะผู้บริโภคมักเชื่อถือในสินค้าในผู้ผลิตตัวจริงมากกว่า แต่ที่น่ากลัวที่สุดนั่นก็คือการ
คัดลอกสินค้าทั้งหมดในตัวผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ทำให้เหล่าผู้บริโภคเกิดจากสับสนและซื้อสินค้าไม่ถูกต้องไปใช้งานซึ่ง
ส่งผลต่อบรรดาผู้ผลิตโดยตรง จึงเกิดการใช้เทคโนโลยีการกันปลอมสินค้าขึ้นซึ่งที่ง่ายที่สุด คือ สติ๊กเกอร์กันปลอม เพราะ
เพียงแค่นำมาติดและไม่ยุ่งยากและสามารถป้องกันปลอมแปลงสินค้าได้มีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง
“สติ๊กเกอร์กันปลอม” หากท่านยังนึกไม่ออกขอให้นึกถึงสติ๊กเกอร์ที่เงินที่อยู่หน้ากล่องผลิตภัณฑ์ที่มักจะเรืองแสง
และมีแบรนด์สินค้าระบุภายในคงทราบได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งสติ๊กเกอร์แบบนี้เรียกว่าสติ๊กเกอร์แบบโฮโลแกรมประเภทหนึ่ง
แท้จริงแล้วสติ๊กเกอร์กันปลอมมีมากมายหลายแบบ แต่เมื่อสังเกตด้านการใช้งานสามารถจับได้เป็นสองแบบใหญ่ๆ
คือ แบบแรกสติ๊กเกอร์กันปลอมเพื่อแสดงเอกลักษณ์ นั่นคือสติ๊กเกอร์ที่ระบุว่าหากมีสติ๊กเกอร์นี้ติดที่ตัวผลิตภัณฑ์จะเป็นของ
แท้ ซึ่งสติ๊กเกอร์แบบนี้มักนิยมใช้โฮโลแกรมหรือสีเงินที่เห็นเป็นประจำซึ่งคือเทคโนโลยีการฉายภาพลงฟิล์ม ซึ่งหากมอง
สติ๊กเกอร์ในหลายๆ มุมจะเห็นภาพที่แตกต่างกันตามที่ผู้ผลิตต้องการโดยอาจจะมีการแฝงรหัส หรือภาพและสีเปลี่ยนไปก็
ได้ ซึ่งหากเป็นของแท้ตัวสติ๊กเกอร์มีภาพเป็นไปตามที่ผู้ประกอบการค้ากำหนดไว้
ส่วนต่อมาคือสติ๊กเกอร์กันการลอกสติ๊กเกอร์ออก ซึ่งแบบนี้นั้นมักจะใช้ค้นหาตำแหน่งที่อยู่บริเวณฝากล่อง
บรรจุภัณฑ์หรือบริเวณตัวรอยต่อของสินค้าเพื่อกันการแกะ ซึ่งสติ๊กเกอร์แบบนี้จะเป็นแบบโฮโลแกรมหรือธรรมดาก็ได้
แต่คุณสมบัติคือหากแกะสลักออกแล้วจะไม่สามารถใช้ได้อีก เท่าที่พบเห็นเป็นประจำคือแกะแล้วกาวเสื่อมสภาพ สติ๊กเกอร์ขาด
และเสียหาย หรือที่นิยมที่สุดคือทิ้งลายกาวอาจจะเป็นคำว่า “Void” หรือ ชื่อเฉพาะของสินค้าโดยแบบนี้มักใช้พิสูจน์
ความเป็นเอกลักษณ์ก็ได้ด้วย
เหตุที่สติ๊กเกอร์กันปลอมเป็นที่นิยมมากกว่าแบบอื่นๆ ไม่เพียงเพราะสนนราคาเท่านั้น แต่เป็นการป้องกันการ
ลักลอบนำสินค้าไปจำหน่ายเองของผู้ผลิตสินค้าของเรา เช่น บางรายใช้เทคโนโลยีกันปลอมลงบนบรรจุภัณฑ์แต่ผลิตภัณฑ์ถูก
ลักลอบออกไปจำหน่ายทำให้ผลิตภัณฑ์กลายเป็นของจริง เป็นต้น ซึ่งเราสามารถแก้ไขได้เพียงเพิ่มกระบวนการติดสติ๊กเกอร์
เพื่อป้องกันการลักลอบจำหน่ายก็สามารถทำได้ การใช้สติ๊กเกอร์กันปลอมนั้นแม้จะเป็นการสิ้นเปลืองและ
เพิ่มต้นทุนแต่ก็นับว่าเป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดได้อย่างแน่นอน
http://s3.postimg.org/jj75kr8pb/image.jpg