daysplus1
September 4th, 2015, 10:04
ด้าวพม่า "ดินแดนทองแห่งพุทธศาสนา" ซึ่งมีสถานที่ทางพุทธศาสนารายล้อมทั่วประเทศพม่า ซึ่งประเทศพม่า มีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นอยุ่ที่เรียบง่าย และเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2558 ประเทศพม่าและรัฐบาลไทยได้ร่วมมือในการยกเลิกธรรมวีซ่าพม่าสำหรับคนไทยและชาวพม่าในการเดินทางเข้าออกเพื่อทำธุรกิจหรือเพื่อการประพาส และในปี 2557 ที่ผ่านมีมีชาวไทยเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศพม่ากว่า 600,000 คนเลยทีเดียว ประเทศพม่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางพระพุทะศาสนามากมายทำให้คนไทยชาวพุทธอย่างเราต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต ก่อนที่เราจะไปเที่ยวประเทศพม่า ขอแนะนำข้อมูลประเทศพม่าอย่างคร่าวๆเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆกันค่ะ เที่ยวพม่า (http://www.daysplustravel.co.th/)
พม่า หรือ เมียนมา (อังกฤษ: Myanmar, พม่า) มีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า หรือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (อังกฤษ: Republic of the Union of Myanmar) เป็นรัฐเอกราชในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแนวพรมแดนติดกับอินเดียบังกลาเทศ จีน ลาว และไทย หนึ่งในสามของพรมแดนพม่าที่มีความยาว 1,930 กิโลเมตรเป็นแนวฝั่งตามอ่าวเบงกอลและทะเลอันดามัน ด้วยพื้นที่ 676,578 ตารางกิโลเมตร ประเทศพม่าเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 40 ของโลก และใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พม่ายังเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 24 ของโลก โดยมีประชากรกว่า 60.28 ล้านคน นับแต่ได้รับเอกราชใน พ.ศ. 2491 ประเทศพม่าเผชิญกับหนึ่งในสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อที่สุดท่ามกลางกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีอยู่มากมายซึ่งยังแก้ไม่ตก ตั้งแต่ พ.ศ. 2505 ถึง 2554 ประเทศพม่าอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการทหาร คณะผู้ยึดอำนาจงานดำเนินงานถูกยุบอย่างเป็นทางการใน พ.ศ. 2554 หลังการเลือกตั้งทั่วไปใน พ.ศ. 2553 และมีการตั้งรัฐบาลพลเรือนในนามแทน แต่ทหารยังมีอิทธิพลอยู่มาก
เมือเราต้องจากไปเที่ยวยังประเทศพม่า หลายท่านอาจจะหาข้อมูลในการท่องเที่ยวก่อนไปถึงและในการท่องเที่ยวประเทศพม่าส่วนใหญ่จะเดินทางเป็นกรุ๊ปทัวร์เนื่องจากในการเดินทางท่องเที่ยวเองอาจจะไม่สะดวกและค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวประเทศพม่ามีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมายังประเทศพม่าจึงนิยนเดินทางเป็นกรุ๊ปทัวร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรงแรมที่พัก อาหารการกิน สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศพม่าที่เป็นที่นิยม ยานพาหนะหรือรถที่ใช้ในการเดินทาง รวมแม้กระทั้งไกด์พม่าเอง ส่วนมากจะสามารถสื่อสารภาษาไทยได้เป็นอย่างดี การเดินทางไปยังประเทศพม่าเราใช้เวลาเพียง 3วัน 2คืน หรือ 4วัน3คืน ก็สามารถเที่ยวยังสถานทีสำคัญๆของประเทศพม่าได้แล้ว วันนี้เราจะไปเที่ยวประเทศพม่า ในเส้นทาง เมืองย่างกุ้ง เมืองหงสาวดี เมืองสิเรียม และพระะธาตุอินทร์ที่อยู่ในรัฐมอญ และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการเดินทางไปเยื่อนยังประเทศพม่าทางท่าอากาศยานก็มีหลากหลายสายการบินที่เปิดให้บริการไปยังเมืองย่างกุ้ง อาทิเช่น สายการบินไทยแอร์เวสย์ สายการบินบางกอกแอร์เวยส์ สายการบินแอร์เอเชีย สายการบินนกแอร์ และสายการบินสัญชาติพม่า เมียร์ม่าแอร์ไลน์ ทั้งนี้ท่านยังสามารถเลือกสายการบินตามงบประมาณกันได้เลย
แนะนำทัวร์ พม่า – พระธาตุอินทร์แขวน
โปรแกรมทัวร์ทัวร์ พม่า-ย่างกุ้ง-สิเรียม –หงสาวดี-พระธาตุอินทร์แขวน
วันแรกของการเดินทาง กรุงเทพฯ –พม่า เมืองย่างกุ้ง
เราจะเช็คอินตั๋วเครื่องบินกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบินบางกอกแอร์เวยส์ ( เงื่อนไขการเช็คอินผู้เดินทางต้อง เช็คอินล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนการเดินทางนะค่ะ) หลังจาก ที่เช็คอิน โหลดสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางต่อแถวเพื่อตรวจคนเข้าเมือง อย่าลืมว่าต้องช่องสำหรับคนไทยด้วยนะค่ะ ช่วงเช้าๆแบบนี้คนไทยก็เดินทางกันเยอะเลยที่เดียวนะค่ะ เป้าหมายในการเข้ามาด้านในสนามบินครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เดินดูของแบรนด์เนมเท่านั้นนะค่ะ เรามีเป้าหมายที่บริการเลาจ์ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ไปจิบกาแฟ ทานข้าวต้มมัดแบบชิวๆ ก่อนเดินทางกันคะ (เมื่อท่านบินโดยสายการบินบางกอกแอร์เวยส์ อย่าลืมไปใช้บริการเล้าจ์บางกอกแอร์ เผื่อเจอน้อง ญาญ่า ) ได้เวลาเราต้องไปขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางสู่ประเทศพม่ากันแล้ว ผู้เขียนเคยเดินทางไปพม่าไม่ต่ำกว่า 10 ครั้งแต่ก็ยังแอบตื่นเต้นเบาๆ ทุกทีที่เดินทาง เราใช้เวลาเพียง 50 นาทีที่จากไปบนท้องฟ้าเหนือประเทศไทย แล้วเราก็ถึงสนามบินเมียนกาลาดง ประเทศพม่า สนามบินเล็กๆที่อบอุ่น ผ่านพิธีทางศุลกากรหรือ ตม.เรียบร้อยเราก็ลงมารับกระเป๋าที่เราโหลดมากันค่ะ แล้วเราก็เดินออกมาเพื่อที่จะมาเจอไกด์ท้องถิ่น เพื่อขึ้นรถไปเที่ยวยังที่วิถีชาวพุทธกันค่ะ
เมื่อมาเยือนประเทศพม่าในครั้งนี้ คือ การไปขอพรเทพทันใจ ที่เจดีย์โบตะทาวน์ อยู่ริมท่าเรือแม่น้ำย่างกุ้ง ก่อนจะถึงเจดีย์ เราสามารถชมวิวในกลางเมืองย่างกุ้งที่ยังเหลือ ร่องรอย สถาปัตยกรรม แบบอังกฤษ ทั้งตึกสำนักงาน ถนน และผังเมือง ที่ย่างกุ้งก็ยังทำให้เรานึกถึงประเทศที่มีความบอบชำในการเป็นเมืองขึ้น มุมแต่ละตึกก็สวยงานแตกต่างกันไป ชมเพลินๆๆก็ถึงเจดีย์โบตะทาวน์แล้วนะค่ะ เราต้องถอดรองเท้าถึงเท้าทุกครั้ง ที่เข้าวัดนะค่ะ สิ่งแรก คือการไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า เพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนนะค่ะ จากนั้นก็จะเป็นสิ่งที่ทุกท่านไม่ควรพลาดในการขอพร คือเทพทันใจ เชื่อว่าเมื่อท่านขอพรแล้วจะได้สิ่งนั้นตามต้องการ อย่างทันใจ ส่วนใหญ่คนท้องถิ่นหรือนักท่องเที่ยว มักจะถวายกระเช้ามะพร้าว กล้วย และมีใบชัยชนะ แล้วขอพรตามที่ท่านต้องการ (ราคากระเช้าก็อยุ่ที่ 3,000 จ๊าด , 5,000 จ๊าด และแต่ขนาดนะค่ะ) ขอพรเรียบร้อยแล้วก็ก็เดินข้ามถนนมาพรเทพกระซิบ เชื่อว่ากระซิบข้างหูท่านเบาๆแล้วพรก็จะสำเร็จ ค่ะ **ลืมแนะนำไปเลยค่ะ ว่าท่านที่มาเที่ยวประเทศพม่า ขอแนะนำให้เตรียมรองเท้าแตะ ห้ามใส่ถุงเท้า ถุงน่องนะค่ะ**
พอพรอันมีความสุขปลื้มใจใจแล้ว เราไปกันที่ มหาเจดีย์ชเวดากอง กัน ซึ้งถือว่าเป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของชาวพม่า และเราจะเห็นชาวพม่านับร้อยนั่งสมาธิ กวาดลานเจดีย์เพื่อขอพรกันมากมาย และเป็นสถานที่ศักดิ์ที่คนทั่วโลกมาขอพรกัน ไปถึงเจดีย์ชเวดากอง อย่าลืมไปส่งน้ำประจำปีเกิดกันด้วยนะ และมีเวลาซัก 10-15 นาทีไปนั่งสมาธิที่จุดอธิฐานเพื่อสวดมนต์ ขอพรจากเจดีย์ทองแห่งนี้ และท่านสามารถไปยังพิพิธภัณฑ์ของเจดีย์ที่ตั้งอยุ๋ด้านหลังเพื่อจะได้ทราบถึงที่มาของการก่อสร้าง การบูรณะ เจดีย์แห่งนี้นะค่ะ ได้เวลาค่ำพอดีเลยค่ะ ทริปนี้พลาดไม่ได้กับการส่องเพชร ที่เจดีย์ชเวดากองกับเพชรเม็ดนี้ 72 กระรัต ค่ะ แสงแวววับ และ สีต่างๆที่เกิดขึ้นทั้ง7สีทำให้เราตื่นเต้นกันมากๆเลย ถือว่าเป็นบุญตาเก็บเอาไว้ในความทรงจำ หลังจากที่เราสักการะมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว เราจะไปทานอาหารค่ำกันค่ะ และตระเตรียมตน
พักผ่อน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปยังเมืองหงสาวดีกัน
พม่า หรือ เมียนมา (อังกฤษ: Myanmar, พม่า) มีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า หรือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (อังกฤษ: Republic of the Union of Myanmar) เป็นรัฐเอกราชในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแนวพรมแดนติดกับอินเดียบังกลาเทศ จีน ลาว และไทย หนึ่งในสามของพรมแดนพม่าที่มีความยาว 1,930 กิโลเมตรเป็นแนวฝั่งตามอ่าวเบงกอลและทะเลอันดามัน ด้วยพื้นที่ 676,578 ตารางกิโลเมตร ประเทศพม่าเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 40 ของโลก และใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พม่ายังเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 24 ของโลก โดยมีประชากรกว่า 60.28 ล้านคน นับแต่ได้รับเอกราชใน พ.ศ. 2491 ประเทศพม่าเผชิญกับหนึ่งในสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อที่สุดท่ามกลางกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีอยู่มากมายซึ่งยังแก้ไม่ตก ตั้งแต่ พ.ศ. 2505 ถึง 2554 ประเทศพม่าอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการทหาร คณะผู้ยึดอำนาจงานดำเนินงานถูกยุบอย่างเป็นทางการใน พ.ศ. 2554 หลังการเลือกตั้งทั่วไปใน พ.ศ. 2553 และมีการตั้งรัฐบาลพลเรือนในนามแทน แต่ทหารยังมีอิทธิพลอยู่มาก
เมือเราต้องจากไปเที่ยวยังประเทศพม่า หลายท่านอาจจะหาข้อมูลในการท่องเที่ยวก่อนไปถึงและในการท่องเที่ยวประเทศพม่าส่วนใหญ่จะเดินทางเป็นกรุ๊ปทัวร์เนื่องจากในการเดินทางท่องเที่ยวเองอาจจะไม่สะดวกและค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวประเทศพม่ามีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมายังประเทศพม่าจึงนิยนเดินทางเป็นกรุ๊ปทัวร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรงแรมที่พัก อาหารการกิน สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศพม่าที่เป็นที่นิยม ยานพาหนะหรือรถที่ใช้ในการเดินทาง รวมแม้กระทั้งไกด์พม่าเอง ส่วนมากจะสามารถสื่อสารภาษาไทยได้เป็นอย่างดี การเดินทางไปยังประเทศพม่าเราใช้เวลาเพียง 3วัน 2คืน หรือ 4วัน3คืน ก็สามารถเที่ยวยังสถานทีสำคัญๆของประเทศพม่าได้แล้ว วันนี้เราจะไปเที่ยวประเทศพม่า ในเส้นทาง เมืองย่างกุ้ง เมืองหงสาวดี เมืองสิเรียม และพระะธาตุอินทร์ที่อยู่ในรัฐมอญ และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการเดินทางไปเยื่อนยังประเทศพม่าทางท่าอากาศยานก็มีหลากหลายสายการบินที่เปิดให้บริการไปยังเมืองย่างกุ้ง อาทิเช่น สายการบินไทยแอร์เวสย์ สายการบินบางกอกแอร์เวยส์ สายการบินแอร์เอเชีย สายการบินนกแอร์ และสายการบินสัญชาติพม่า เมียร์ม่าแอร์ไลน์ ทั้งนี้ท่านยังสามารถเลือกสายการบินตามงบประมาณกันได้เลย
แนะนำทัวร์ พม่า – พระธาตุอินทร์แขวน
โปรแกรมทัวร์ทัวร์ พม่า-ย่างกุ้ง-สิเรียม –หงสาวดี-พระธาตุอินทร์แขวน
วันแรกของการเดินทาง กรุงเทพฯ –พม่า เมืองย่างกุ้ง
เราจะเช็คอินตั๋วเครื่องบินกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบินบางกอกแอร์เวยส์ ( เงื่อนไขการเช็คอินผู้เดินทางต้อง เช็คอินล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนการเดินทางนะค่ะ) หลังจาก ที่เช็คอิน โหลดสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางต่อแถวเพื่อตรวจคนเข้าเมือง อย่าลืมว่าต้องช่องสำหรับคนไทยด้วยนะค่ะ ช่วงเช้าๆแบบนี้คนไทยก็เดินทางกันเยอะเลยที่เดียวนะค่ะ เป้าหมายในการเข้ามาด้านในสนามบินครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เดินดูของแบรนด์เนมเท่านั้นนะค่ะ เรามีเป้าหมายที่บริการเลาจ์ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ไปจิบกาแฟ ทานข้าวต้มมัดแบบชิวๆ ก่อนเดินทางกันคะ (เมื่อท่านบินโดยสายการบินบางกอกแอร์เวยส์ อย่าลืมไปใช้บริการเล้าจ์บางกอกแอร์ เผื่อเจอน้อง ญาญ่า ) ได้เวลาเราต้องไปขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางสู่ประเทศพม่ากันแล้ว ผู้เขียนเคยเดินทางไปพม่าไม่ต่ำกว่า 10 ครั้งแต่ก็ยังแอบตื่นเต้นเบาๆ ทุกทีที่เดินทาง เราใช้เวลาเพียง 50 นาทีที่จากไปบนท้องฟ้าเหนือประเทศไทย แล้วเราก็ถึงสนามบินเมียนกาลาดง ประเทศพม่า สนามบินเล็กๆที่อบอุ่น ผ่านพิธีทางศุลกากรหรือ ตม.เรียบร้อยเราก็ลงมารับกระเป๋าที่เราโหลดมากันค่ะ แล้วเราก็เดินออกมาเพื่อที่จะมาเจอไกด์ท้องถิ่น เพื่อขึ้นรถไปเที่ยวยังที่วิถีชาวพุทธกันค่ะ
เมื่อมาเยือนประเทศพม่าในครั้งนี้ คือ การไปขอพรเทพทันใจ ที่เจดีย์โบตะทาวน์ อยู่ริมท่าเรือแม่น้ำย่างกุ้ง ก่อนจะถึงเจดีย์ เราสามารถชมวิวในกลางเมืองย่างกุ้งที่ยังเหลือ ร่องรอย สถาปัตยกรรม แบบอังกฤษ ทั้งตึกสำนักงาน ถนน และผังเมือง ที่ย่างกุ้งก็ยังทำให้เรานึกถึงประเทศที่มีความบอบชำในการเป็นเมืองขึ้น มุมแต่ละตึกก็สวยงานแตกต่างกันไป ชมเพลินๆๆก็ถึงเจดีย์โบตะทาวน์แล้วนะค่ะ เราต้องถอดรองเท้าถึงเท้าทุกครั้ง ที่เข้าวัดนะค่ะ สิ่งแรก คือการไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า เพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนนะค่ะ จากนั้นก็จะเป็นสิ่งที่ทุกท่านไม่ควรพลาดในการขอพร คือเทพทันใจ เชื่อว่าเมื่อท่านขอพรแล้วจะได้สิ่งนั้นตามต้องการ อย่างทันใจ ส่วนใหญ่คนท้องถิ่นหรือนักท่องเที่ยว มักจะถวายกระเช้ามะพร้าว กล้วย และมีใบชัยชนะ แล้วขอพรตามที่ท่านต้องการ (ราคากระเช้าก็อยุ่ที่ 3,000 จ๊าด , 5,000 จ๊าด และแต่ขนาดนะค่ะ) ขอพรเรียบร้อยแล้วก็ก็เดินข้ามถนนมาพรเทพกระซิบ เชื่อว่ากระซิบข้างหูท่านเบาๆแล้วพรก็จะสำเร็จ ค่ะ **ลืมแนะนำไปเลยค่ะ ว่าท่านที่มาเที่ยวประเทศพม่า ขอแนะนำให้เตรียมรองเท้าแตะ ห้ามใส่ถุงเท้า ถุงน่องนะค่ะ**
พอพรอันมีความสุขปลื้มใจใจแล้ว เราไปกันที่ มหาเจดีย์ชเวดากอง กัน ซึ้งถือว่าเป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของชาวพม่า และเราจะเห็นชาวพม่านับร้อยนั่งสมาธิ กวาดลานเจดีย์เพื่อขอพรกันมากมาย และเป็นสถานที่ศักดิ์ที่คนทั่วโลกมาขอพรกัน ไปถึงเจดีย์ชเวดากอง อย่าลืมไปส่งน้ำประจำปีเกิดกันด้วยนะ และมีเวลาซัก 10-15 นาทีไปนั่งสมาธิที่จุดอธิฐานเพื่อสวดมนต์ ขอพรจากเจดีย์ทองแห่งนี้ และท่านสามารถไปยังพิพิธภัณฑ์ของเจดีย์ที่ตั้งอยุ๋ด้านหลังเพื่อจะได้ทราบถึงที่มาของการก่อสร้าง การบูรณะ เจดีย์แห่งนี้นะค่ะ ได้เวลาค่ำพอดีเลยค่ะ ทริปนี้พลาดไม่ได้กับการส่องเพชร ที่เจดีย์ชเวดากองกับเพชรเม็ดนี้ 72 กระรัต ค่ะ แสงแวววับ และ สีต่างๆที่เกิดขึ้นทั้ง7สีทำให้เราตื่นเต้นกันมากๆเลย ถือว่าเป็นบุญตาเก็บเอาไว้ในความทรงจำ หลังจากที่เราสักการะมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว เราจะไปทานอาหารค่ำกันค่ะ และตระเตรียมตน
พักผ่อน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปยังเมืองหงสาวดีกัน