PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : ชาวดอยตั้งหลอดไฟแอลอีดีใช้เองรุ่งเรืองมากกระทั่งถึงรุ่งอรุณ



kookki001
September 7th, 2015, 11:08
 
วันหนึ่งกรุ๊ปกระผมได้มีโชคดี ไปเที่ยวตะลอนป่าภู ในการเดินทางครั้งนี้ พวกได้เดินทาง ด้วยรถไฟ ออกสัญจรตั้งแต่เช้าของวันหยุด เพื่อเดินไปเที่ยวภูเขา ก่อนขึ้นรถมิตรของเราก็ได้จัดแจงไฟฉายที่เป็นแผนการหลอดไฟแอลอีดี (http://www.sunnergyled.com/)  เพื่อใช้ในตอนมืด เพื่อนของเราบอกว่าไฟฉายอันนี้กินไฟน้อยมาก และประหยัดไฟ  เลยแจกไฟฉายแบบหลอดไฟแอลอีดีกันคนละอัน  มีน้ำหนักเบา พกพาง่าย สะดวก  มีหลายสี เพียงพอสำหรับทุกคน    พอขึ้นบนรถไฟ พวกเราก็ได้เห็นสื่อโฆษณา บนหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับหลอดไฟแอลอีดี เลยมีความคิดเล่นว่านี้ถ้ารถไฟนำหลอดไฟแอลอีดีมากตรึงบนรถ ก็คงสว่างน่าดูหมู่เราทุกคนต่างก็เห็นด้วย  พอผ่านสถานีแรก  ก็เลยเห็นบ้านพักอาศัย ตั้งต้นมีการนำหลอดไฟแอลอีดีมา เปลี่ยนแทนหลอดไฟแบบธรรมดา หรือ แบบเดิม ที่เรียกว่า หลอดประหยัดไฟ   พอเรามองไปไกลๆ ก็เห็น สนามฟุตบอลติดตั้งหลอดไฟแบบเดิมอยู่  เลยคิดว่าคงจะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงแน่ๆ ไม่รู้ว่าค่าเช่าสนาม คุ้มทุนกับค่าไฟฟ้าที่จ่ายหรือเปล่า คิดไป คิดมา เพื่อนของเราอีกคนก็พูดว่าก็คงจะคุ้มแหละ เพราะว่าถ้าเกิดว่าไม่คุ้ม ผู้ประดิษฐ์สนามฟุตบอลจะมาเปิดทำไม อาจจะเพราะด้วยใจรัก หรืออาจจะเป็นความชอบส่วนตัวหรือเปล่า  พวกเราทุกคนก็เงียบไปกันไปสักพัก   แล้วก็ทุกคนก็หัวเราะออกมาพร้อมกันเสียงดัง แล้วเราจะไม่ยุ่งอะไรกับเขา เรานึกของเราดีกว่ามั้ย พอรถเคลื่ยนผ่านสถานีที่สอง ก็เริ่มเห็น ไฟทีสวน สนามหญ้า ของสถานีแห่ง  มีไฟสนามเป็นแบบแอลอีดี  เป็นชุดสำเร็จรูปมาพร้อมกับแผงโซล่าเซลล์ พวกเราเลยพูดโอ้โฮ้ มี พร้อมชุดเลย ไม่ต้องพึ่งไฟของการไฟฟ้าด้วย ดีจัง   พอสักพัก ก็มีคุณลุงที่เป็นช่างของการรถไฟ  มานั่งใกล้ๆ ก็เลยถามว่า  อำนาจนั่งมองอะไรกันอยู่ด้วยความสนใจหรือ ลุงเลยแซวว่า แอบนั่งมองสาวๆแน่เลย วัยรุ่นกันทั้งนั้น   พวกเราเลยบอกว่าพวกเรากำลังห่วงใยเกี่ยวกับหลอดไฟแอลอีดีกันอยู่  พูดกันว่ามันประหยัดไฟมากเลย ถ้าเป็นอย่างนี้จะช่วยลดโลกร้อนไปได้มาก ลดปรากฏการณ์เรือนกระจก การปล่อยก๊าซคาร์บอนด์ไดอ๊อกไซด์ คุณลุงก็เลยยกยอ พวกเราว่าเก่งมากที่ พวกเรามองเห็นตรงนี้  แล้วก็ถามพวกต่อว่าพวกเรากำลังจะนั่งรถไปไหนกันละ  พวกเราเลยตอบว่า พวกเรากำลังเดินทางไปเที่ยวภูเขา กัน เพื่อไปสัมผัส วิถีชีวิต ชาวเขากัน  อยากไปสูดอากาศบริสุทธิ์   ตอนนี้อากาศร้อนมากในเมือง พวกเราคุยกันเพลินมาก คุณลุงบอกว่าเพิ่งจะติดตั้งหลอดไฟแอลอีดีเสร็จไป เดี่ยวนี้เทคโนโลยี ไปไกลมาก อาจจะเอาชุดโซล่าเซลล์แบบเล็กๆ เพื่อจ่ายไฟให้กับหลอดไฟแอลอีดี ได้ตลอดทั้งคืน  แถมคุณลุงยังบอกอีกว่าติดตั้งไม่ยาก ในชุดก็จะประกอบด้วย แผงโซล่าเซลล์  ชุดชาร์จไฟให้กับแบตเตอรื่   หลอดไฟแอลอีดี   พวกยังคุยกันยังไม่จบแต่ก็ต้องลงจากรถไฟก่อนพอเราถึงสถานีที่ที่ต้องลง เพื่อไปต่อรถสองแถว   พอรถจอดพวกเราก็รีบลงจากรถ ไฟและกล่าวคำอำลาคุณลุง และคุณลงก็พูดว่าโอกาสหน้าเจอกันใหม่  เจอกันอีกนะ  พอลงจากรถได้ไม่เท่าไหร รถสองแถวก็มาถึง พวกรีบขึ้นทันที ก่อนที่จะเวลาค่ำเสียก่อน  พวกนั่งรถสองแถวไปอีกครึ่งชั่วโมง  ก็ต้องต่อเรือ อีก ชั่วโมงครึ่ง    พอไปถึงท่าเรือก็เริ่มโพล้เพล้  คนขับเรือ  มาตอนรับพวกเรา ก็บอกพวกเราว่ารีบขึ้นเรือสำเภากันกเถอะ ก่อนที่จะมืดไปมากกว่า นี้ พอลงเรือ พวกเราก็ได้จ้องแผงโซล่าเซลล์แผงใหญ่ บนหลังคาเรือ และมีหลอดไฟแอลอีดี รอบเรือ  ไฟทีได้ จากแผงโซล่าเซลล์ เพื่อจ่ายไฟให้กับหลอดไฟแอลอีดี รอบลำเรือ คนขับเรือ ก็เล่าให้พวกเราฟังว่า พวกเขาจำเป็นต้องใช้หลอดไฟแบบนี้เพราะ ออมอดไฟ และกินไฟน้อย ประหยัดน้ำมันไม่ต้องใช้เครื่องปั่นไฟ และสามารถใช้งานได้นานด้วย เดี่ยวพอขึ้นฝั่ง พวกเราจะทะลึงกับชาวเขาเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขา นำหลอดไฟแอลอีดีมาใช้กันทั่วทั้งหมู่บ้าน  ทำให้ลดการใช้เครื่องปั่นไฟและกระเหม็ดกระเหมียดน้ำมัน ที่สำคัญไม่มีเสียงดังรบกวนพวกสัตว์ในตอนกลางคืน พอไปถึงพวกเราก็เห็นแสงสว่างที่มากจากหลอดไฟแอลอีดีมากแต่ไกล  หัวหน้าเผา บอกกับพวกเราว่าตั้งแต่มีหลอดไฟแอลอีดีพวกนี้มาใช้ ทำให้มืดมีความเงียบดีมากเหมาะแก่การพักผ่อนสำหรับผู้ทีเดินทางมาพักผ่อน จำได้พักผ่อนอย่างจริงจัง  พวกเราติดตั้งกันเองแบบชาวบ้าน ทำให้ทุกครอบครัว รุ่งทั่วทุกหลังคาเรือน พอเห็นไฟฉายของพวกเรา ก็เลยชื่นชอบขึ้นมา  และอยากจะนำมาใช้ที่บ้าง  พอเราคุยกันยันเช้า และหลอดไฟก็สว่างไสว ทั้งคืนเช่นกันทำให้พวกเราอุ่นใจและไม่ต้องระแวดระวังภัยอันตรายจากสัตว์ที่จะมาก่อกวน สร้างความวุ่น หรือ ความกลัวกับเพื่อนของเรา สำหรับตอนนี้พวกเราขอนอนกันก่อนนะครับ