takky1090
December 4th, 2015, 17:59
มะเขือเทศเป็นผลไม้ในตระกูลพืชล้มลุกที่มีการแจงพันธุ์ประมาณหนึ่งหมื่นสายพันธ์ทั่วโลก เพราะปลูกง่ายคุมง่าย ด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยวและมีสีสันงามตา ผู้คนทั่วโลกจึงนิยมนำมะเขือเทศมาใช้ในการประกอบอาหารการกิน ทำซอสมะเขือเทศ และน้ำมะเขือเทศหรือมะเขือเทศแคปซูลซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในหมู่สาวๆ เพราะไลโคปีนหรือสารสีแดงในมะเขือเทศนั้นช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีอมชมพูและมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งอนุมูลอิสระเกิดได้จากมลภาวะที่เรือนร่างของเราได้ปะทะกันในแต่ละกัน แดดที่แผดเผาหนัง การนอนดึก ความเคร่งเครียด การกินอาหารไม่มีคุณประโยชน์ การสูบบุหรี และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลให้ร่างกายเสียแก่ไว ไลโครปีนในมะเขือเทศแคปซูลนั้นเองจะเป็นตัวสนับสนุนในการชะลอความแก่ มะเขือเทศแคปซูล (http://www.easy-tomato.com/)
ทำให้ในช่วงนี้ทางของการรับประทานมะเขือเทศกำลังมาแรงมากในโลกโซเซี่ยลเราจะพบรีวิวต่างๆมากมาย ส่งผลให้ผู้คนหันมานิยมบริโภคมะเขือเทศแคปซูลกันมากขึ้น ทั้งในรูปแบบกินสดจิ้มเกลือ แบบน้ำมะเขือเทศกล่อง รวมถึงของกินเสริมต่างๆที่มีมะเขือเทศเป็นส่วนผสมในแบบอย่างมะเขือเทศแคปซูลซึ่งในปัจจุบัน มีออกมาให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ มะเขือเทศแคปซูลนั้นได้ตอบโจทย์ของลูกค้าสมัยใหม่ ซึ่งดำเนินชีวิตท่ามกลางความรีบร้อน ไม่ค่อยมีเวลาดูเวลาตัวเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ถูกกับรสชาติของน้ำมะเขือเทศหรือมาเขือเทศสดๆ มะเขือเทศแคปซูลจึงเป็นเส้นทางลัดในการเอาใจใส่ตัวเองของผู้บริโภค
กรรมแบบการผลิตมะเขือเทศแคปซูลนั้นจะผ่านกระบวนการผลิตด้วยนวัตกรรมSpray Dryerซึ่งสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน Spray dry คือ การนำน้ำมะเขือเทศสดๆ ทำการพ่นฝอยผ่านความร้อนให้เป็นผง โดยเครื่อง Spray Dryerสามารถรักษาคุณผลของ น้ำมะเขือเทศได้ดีเยี่ยม และเมื่อน้ำมะเขือเทศได้ผ่านความร้อนไลโคปีนจะเพิ่มมากขึ้นประมาณ 2-3 เท่า ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมไลโครปีนได้ดีกว่าการบริโภคมะเขือเทศแคปซูลได้ดีกว่ามะเขือเทศสด
มะเขือเทศแคปซูลไม่เพียงช่วยในเรื่องของผิวเท่านั้น
ในทางการแพทย์มีการการศึกษาค้นคว้าพบว่าไลโคปีนในมะเขือเทศแคปซูลยังช่วยลดการเสี่ยงจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในบุรุษ
และลดการเสี่ยงจากโรคมะเร็งรังไข่ในสตรี
มะเขือเทศแคปซูลมีวิตามินเอช่วยในการบำรุงรักษาสายตา ปรับสภาพสายตาให้มองเห็นในที่มืดได้ดี ลดอาการความดันโลหิตสูง และยังช่วยลดการอักเสบของสิวได้อีกด้วย
มะเขือเทศแคปซูลมีวิตามินซี ช่วยคุ้มครองโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตาไรฟัน และยังช่วยปรับเท่าในการขับถ่ายให้ดีขึ้น
เสริมสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นเส้นใยทำหน้าที่ผสานเนื้อเยื่อต่างๆเข้าด้วยกัน และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ข้อควรระวัง
ถึงแม้ว่ามะเขือเทศจัดเป็นผลไม้ที่มีค่ามากมาย แต่ร่างกายของคนเราก็ควรได้รับในจำนวนที่พอเหมาะ
หากเป็นน้ำมะเขือเทศควรราววันละ 1 – 2 กล่องเล็กเท่านั้น หากรับประทานมากเกินไปก็อาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลประโยชน์
ทำให้มีอาการตัวเหลือง คลื่นไส้ เพราะสารไลโคปีนจะเก็บเกินขนาดที่ตับ
สำหรับคนที่เป็นโรคไตไม่ควรทานมะเขือเทศเพราะมีสารโพแทสเซียมสูงมาก
ทำให้ในช่วงนี้ทางของการรับประทานมะเขือเทศกำลังมาแรงมากในโลกโซเซี่ยลเราจะพบรีวิวต่างๆมากมาย ส่งผลให้ผู้คนหันมานิยมบริโภคมะเขือเทศแคปซูลกันมากขึ้น ทั้งในรูปแบบกินสดจิ้มเกลือ แบบน้ำมะเขือเทศกล่อง รวมถึงของกินเสริมต่างๆที่มีมะเขือเทศเป็นส่วนผสมในแบบอย่างมะเขือเทศแคปซูลซึ่งในปัจจุบัน มีออกมาให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ มะเขือเทศแคปซูลนั้นได้ตอบโจทย์ของลูกค้าสมัยใหม่ ซึ่งดำเนินชีวิตท่ามกลางความรีบร้อน ไม่ค่อยมีเวลาดูเวลาตัวเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ถูกกับรสชาติของน้ำมะเขือเทศหรือมาเขือเทศสดๆ มะเขือเทศแคปซูลจึงเป็นเส้นทางลัดในการเอาใจใส่ตัวเองของผู้บริโภค
กรรมแบบการผลิตมะเขือเทศแคปซูลนั้นจะผ่านกระบวนการผลิตด้วยนวัตกรรมSpray Dryerซึ่งสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน Spray dry คือ การนำน้ำมะเขือเทศสดๆ ทำการพ่นฝอยผ่านความร้อนให้เป็นผง โดยเครื่อง Spray Dryerสามารถรักษาคุณผลของ น้ำมะเขือเทศได้ดีเยี่ยม และเมื่อน้ำมะเขือเทศได้ผ่านความร้อนไลโคปีนจะเพิ่มมากขึ้นประมาณ 2-3 เท่า ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมไลโครปีนได้ดีกว่าการบริโภคมะเขือเทศแคปซูลได้ดีกว่ามะเขือเทศสด
มะเขือเทศแคปซูลไม่เพียงช่วยในเรื่องของผิวเท่านั้น
ในทางการแพทย์มีการการศึกษาค้นคว้าพบว่าไลโคปีนในมะเขือเทศแคปซูลยังช่วยลดการเสี่ยงจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในบุรุษ
และลดการเสี่ยงจากโรคมะเร็งรังไข่ในสตรี
มะเขือเทศแคปซูลมีวิตามินเอช่วยในการบำรุงรักษาสายตา ปรับสภาพสายตาให้มองเห็นในที่มืดได้ดี ลดอาการความดันโลหิตสูง และยังช่วยลดการอักเสบของสิวได้อีกด้วย
มะเขือเทศแคปซูลมีวิตามินซี ช่วยคุ้มครองโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตาไรฟัน และยังช่วยปรับเท่าในการขับถ่ายให้ดีขึ้น
เสริมสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นเส้นใยทำหน้าที่ผสานเนื้อเยื่อต่างๆเข้าด้วยกัน และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ข้อควรระวัง
ถึงแม้ว่ามะเขือเทศจัดเป็นผลไม้ที่มีค่ามากมาย แต่ร่างกายของคนเราก็ควรได้รับในจำนวนที่พอเหมาะ
หากเป็นน้ำมะเขือเทศควรราววันละ 1 – 2 กล่องเล็กเท่านั้น หากรับประทานมากเกินไปก็อาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลประโยชน์
ทำให้มีอาการตัวเหลือง คลื่นไส้ เพราะสารไลโคปีนจะเก็บเกินขนาดที่ตับ
สำหรับคนที่เป็นโรคไตไม่ควรทานมะเขือเทศเพราะมีสารโพแทสเซียมสูงมาก