โรงเรียนเสริมสวยเค้าศึกษาตัดผมกันยังไง กว่าจะมาเป็นช่างตัดผมได้

[yutpox117]

กว่าจะเป็นช่างเสริมสวยผู้ชำนาญที่สามารถเปิดร้านตัดผม ออกแบบ ทรงผม แต่งหน้า ทำเล็บ ได้นั้น ส่วนใหญ่แล้วจะได้รับการฝึกทักษะเบื้องต้นมากจากโรงเรียนเสริมสวย (http://www.glammer.com) บางคนที่มีเงินได้น้อยก็ไปเรียนที่สารพัดช่างเพราะสอนฟรี เรียนฟรี จะได้เรียนรู้เพียงที่หนึ่ง สระ ไดร์ ซอย แต่มีอีกหลาย ๆ คนที่อยากจะเป็นดีไซน์เนอร์ ทรงผมผู้เชี่ยวชาญ เปิดร้านให้เป็นที่รู้จักของผู้ซื้อและมีความเชี่ยวชาญขั้นสูง หรืออาจจะเพิ่มขึ้นโอกาสทางธุรกิจด้านนี้ด้วยการเปิดเป็นโรงเรียนเสริมสวยในท้องถิ่นก็ได้
 การเลือกถนนหนทางอาชีพด้านเสริมสวยต้องเรียนเพื่อให้ได้มาด้วยใบประกาศประกันจากสถานที่เรียนตามโรงเรียนเสริมสวย เมื่อเราเรียนจบหลักสูตรจะได้รับใบประกาศณียบัตรจบหลักสูตร หลักสูตรการเรียนนั้นก็เรียงลำดับจากขั้นพื้นฐานจนถึงขั้นผู้เชี่ยวชาญและถ้าผู้ที่มีพรสวรรค์ก็ก้าวไปสู่สนามการประกวดออกแบบทรงผม สร้างชื่อเสียงให้กับร้านของตัวเอง ก่อนอื่นจุดเริ่มต้นคือการหารโรงเรียนเสริมสวยที่เราอยากจะเข้าไปเรียน  ทุกคนที่เข้าไปเรียนถ้ามีความตั้งใจจริงก็จะสามารถนำมาสร้างรายได้และเตรียมพร้อมจนมีความถนัด เสียงเงินเรียนแล้วก็ต้องเก็บความเข้าใจมาให้เต็ม ๆ คอร์ดเรียนขั้นขั้นพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้นใช้เวลาเรียนเดา 5-7 วัน พอเรียนจบหลักสูตรนี้ก็สามารถไปหารายได้เสริมได้แล้วนะคะ ไปสมัครตามร้านเสริมสวยก่อนเพื่อเก็บเกี่ยวประสพการณ์ ช่างเสริมสวยไม่ใช่แค่ว่ามีฝีมือดีเพียงอย่างเดียว ต้องมีอัทธยาศัยดี ยิ้มแฉ่งแจ่มใสและเข้าใจลูกค้าหรือเข้าถึงความหวังของลูกค้า ข้อดีของจุดนี้คือลูกค้าจะใช้บริการเราเสมอ โรงเรียนเสริมสวย บางแห่งมีเปิดพร่ำสอนด้านการให้บริการ ปฏิสันถารลูกค้า การเข้าถึงลูกค้าด้วยเป็นหลักสูตรที่เหมาะมากกับผู้ที่ต้องการเปิดร้านเสริมสวย และเป็นร้านที่มีบริการนานัปการรูปแบบ เช่น ออกแบบทรงผม นวดหน้า นวดตัว ทำเล็บ เป็นต้น 
 เมื่อเราได้เก็บเกี่ยวความชำนาญมาพอสมควรแล้ว ก็ควรที่จะหาความรู้ หาสิ่งใหม่ ๆ เทรนทรงผม สีผม เพื่อบอกลูกค้า ทางโรงเรียนเสริมสวยก็จะมีคอร์สสำหรับมืออาชีพที่เชี่ยวชาญประกอบอาชีพช่างเสริมสวยเปิดเป็นธุรกิจของตัวเองได้เลย มีการแนะนำตั้งแต่การลงทุน แหล่งเครื่องไม้เครื่องมือ การเลือกซื้อ การจดทะเบียน นี่แหละเป็นข้อดีของการเรียนโรงเรียนเสริมสวย เราไม่ต้องไปมัวเสียเวลาลองผิดลองถูกเพราะทางโรงเรียนจะสอนเราจนกอปรอาชีพได้เลยแล้วการที่เรียนจบหลักสูตรเรายังมีใบประกาศณียบัตรเพื่อสร้างความน่าศรัทธาให้กับลูกค้าอีกด้วย 
มีหลายคนเข้าใจว่าการเรียนตามโรงเรียนเสริมสวย เป็นอะไรที่เปลืองไม่ได้อะไรกลับมาเท่ากับการหาเรียนแบบไปเป็นคนช่วยตามร้านเสริมสวยแล้วเก็บเกี่ยวประสพการณ์เอาเอง จริงอยู่ค่ะไม่ต้องเสียงเงินไปเรียนแต่ก็จะเรียนรู้แบบไม่มีหลักการ แล้วก็ไม่มีการนำความรู้ไปพํฒนาต่อยอดให้มีผู้บริโภคมากขึ้น การเรียนรู้บางทีก็ต้องลงเงินเพื่อเพิ่มความสามารถให้ตัวเราเองนะคะ