PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : ## เสียใจกี่ครั้ง..ก็ยังเหมือนเดิม ขี่เหร่เหมือนเดิม คราวนี้สวยแน่ ไม่พลาด



ฝ้ายSK-I
August 14th, 2016, 20:52
อยากขาวใส ไร้สิว ฝ้า กระ เคยใช้มาหลายครีมแต่ไม่มีวี่แวว เลย

เคล็ดลับความขาวใส อยู่ที่ธรรมชาติ

ลดรอยสิว ฝ้า กระ ไม่ทิ้งรอยใน 7-14 วัน
เผยผิวใหม่ ขาวใสอมชมพู

สนใจติดต่อน้องฝ้าย
Tel : 0949947803 (ฝ้าย)
Line id : Sk1sakura

http://www.mx7.com/i/14e/0aDQ1p.jpg (http://sakura16.lnwshop.com)

&&& วิธีแก้อาการแพ้ครีม สิวเต็มหน้า สิวอักเสบ คัน ฟรีแต่เห็นผล โดยSK-I &&&
แนะนำวิธีแก้อาการแพ้ครีม หน้าแดง สิวเห่อ เป็นผื่นเล็กๆ เป็นสิวตุ่มสม่ำเสมอ
"อาการหน้าแพ้ครีม" เป็นอาการที่มีสิทธิ์เกิดขึ้นได้กับทุกๆคนตราบใดที่เรายังต้องทาครีมบำรุงผิวมากมายหลายตัวอยู่ทุกๆเมื่อเชื่อวัน แล้วถ้าเราไม่ใช้ครีมได้เปล่าคะ? ตอบ ได้เลย ว่าได้ แต่จะได้หน้าดำ หมองคล้ำ ริ้วรอย ยิ่งช่วงหน้าร้อน เกิดฝ้าอีกต่างหาก ไม่หน้าดูเอาเสียเลย อยากสวยก็ต้องดูแลผิวหน้าให้ดีๆนะคะ ก็เลยจำเป็นต้องใช้เครื่องสำอาง แน่นอนมันให้คุณมากกว่าให้โทษ เออ..งั้นเรามาเตรียมมือรับกับอาการที่มันให้โทษกันบ้างนะคะ โดยอาการของคนที่แพ้ครีมนั้นจะมีอาการแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีอาการที่ใกล้เคียงกันคือ มีอาการหน้าแสบแดงมีผดผื่นหรือเป็นตุ่มน้ำเม็ดเล็กๆเห่อขึ้นมาเป็นจำนวนมาก บางครั้งก็ดูเหมือนสิวผดหรือไม่ก็มีสิวอักเสบขึ้นมาหลายเม็ดในตำแหน่งที่ไม่เคยขึ้นมาก่อนมักมีอาการคันร่วมด้วย
เชื่อเถอะ!!! ว่าเราเข้ากันไม่ได้
สาเหตุหลักของอาการแพ้ครีมที่ว่าก็มักเกิดจากการที่เราลองใช้ครีมตัวใหม่ที่เราไม่เคยใช้มาก่อน แล้วดันโชคร้ายที่ครีมตัวนั้นมันเข้ากับหน้าของเราไม่ได้ มันก็เลยต่อต้านเราก็เลยส่งอาการแพ้มาบนหน้าเพื่อเป็นสัญญาณบอกเราว่า "ฉันไม่ชอบหน้าเธอเลิกใช้ฉันเถอะ" ในเมื่อเราเข้ากับครีมตัวใหม่ที่ว่าไม่ได้ ทางออกที่ดีที่สุดก็คือเลิกใช้ครีมตัวนั้นอย่างด่วน แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าพอเราเลิกใช้แล้วเรื่องมันยังไม่จบน่ะสิ เพราะมันได้ฝากภาระอันใหญ่หลวงเอาไว้ให้เราแก้อีกนั่นก็คือ ผดผื่น,สิว, อาการหน้าแดงคันบนใบหน้า วึ่งมันไม่ใช่ว่ารักษาอาทิตย์สองอาทิตย์แล้วจะหายได้ คือการรักษาอาการแพ้เหล่านี้ต้องใช้เวลาบวกกับวิธีการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม ถึงจะสามารถรักษาอาการเหล่านี้ให้หายไปได้
แล้วต้องทำยังไงต่อไป?

ในเมื่อหน้าของเรามันเกิดอาการแพ้ขึ้นมาแล้วเราก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหาวิธีแก้ปัญหาตรงนี้ไปให้ได้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือไปหาหมอผิวหนังซะ เพื่อให้หมอดูอาการแพ้ของเราและช่วยรักษาอาการที่ว่าให้หายไปอย่างรวดเร็วที่สุด

แต่ดิฉันเชื่อว่ามีหลายคนที่ไม่อยากจะไปหาหมอและอยากลองรักษาอาการแพ้ด้วยตัวเองดูสักครั้ง วันนี้เรามีวิธีแก้อาการแพ้ครีมเบื้องต้นมาแนะนำกันนะคะตามขั้นตอนได้ล่างนี้เลยคะ
1. เลิกใช้ครีมตัวปัญหาทันที
ขั้นตอนแรกของการแก้ปัญหาอาการแพ้ครีมก็คือเลิกใช้ครีมที่ทำให้หน้าเกิดอาการแพ้ทันที ถึงแม้ว่าครีมที่ซื้อมาใหม่จะมีราคาแพงขนาดไหนก็ตาม เพราะครีมราคาแพงไม่ได้แปลว่าใช้แล้วดีเสมอไป แต่อย่าเพิ่งจับมันโยนทิ้งลงถังขยะนะคะเพราะมันยังมีประโยชน์อยู่บ้าง ก่อนที่เราจะกำจัดมันดิฉันอยากให้เราจดส่วนผสมของครีมที่เราแพ้เอาไว้ก่อน เพื่อเราจะได้เอามาวิเคราะห์ภายหลังว่าเราน่าจะแพ้สารตัวไหนที่อยู่ในครีม เวลาที่เราจะซื้อครีมตัวใหม่มาใช้จะได้ดูส่วนผสมในครีมก่อนว่ามันมีความเสี่ยงที่ใช้แล้วแพ้หรือไม่ จะได้หลีกเลี่ยงไม่ต้องซื้อมาใช้อีกสามารถลดความเสี่ยงต่อการแพ้ครีมไปได้เยอะเลย
2. ควรหยุดใช้เครื่องสำอางค์หรือครีมบำรุงผิวทุกชนิด
หลังจากที่เราเลิกใช้ครีมตัวปัญหาไปแล้วต่อมาเราควรหยุดใช้ครีมบำรุงผิวที่เราเคยใช้อยู่ก่อนหน้านี้ทั้งเดย์ครีมไนท์ครีมโทนเนอร์มอยเจอไรเซอร์แป้งพัฟ และที่สำคัญหยุดใช้ครีมกันแดดก่อนเพราะครีมเหล่านี้อาจจะเข้าไปขัดขวางการรักษาอาการแพ้ของเราอาจทำให้หน้าของเราเกิดการระคายเคืองและอักเสบมากยิ่งขึ้นหยุดใช้รอให้รักษาผดผื่นที่หน้าให้หายก่อนแล้วค่อยกลับมาบำรุงผิวก็ยังไม่สายนะคะ

3. ควรล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าหรือเจลล้างหน้าที่มีค่าPH กลางๆ(6-8)
เวลาที่หน้าเราเกิดอาการแพ้ขึ้นมา ครีมอะไรที่เราใช้อยู่ก่อนหน้านี้ก็อาจทำให้อาการแพ้ของเรารุนแรงมากขึ้นได้ทั้งนั้นเพราะผิวหน้าเรามันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว มันอ่อนแอจนเกินรับไหว โฟมล้างหน้าก็เป็นผลิตภัณฑ์อีกหนึ่งตัวที่ไม่ควรมองข้าม โฟมล้างหน้าจัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้าเป็นอันดับต้นๆ เพราะโฟมหรือสบู่ส่วนใหญ่จะมีค่า ความเป็นกรดหรือด่างสูงจึงอาจกลายเป็นสิ่งที่ทำให้อาการแพ้ของเราหนักมากขึ้นกว่าเดิมได้ ฉะนั้นในช่วงที่เรามีอาการแพ้ครีมอยู่ควรงดใช้โฟมหรือสบู่ล้างหน้าไปก่อน แล้วหันมาล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าหรือ เจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยนจะดีกว่าเป็นการลดการระคายเคืองที่ผิวหน้าอย่างดีเยี่ยม ช่วยปูทางให้กับการรักษาผิวหน้าในขั้นตอนต่อไป
4. งดการพอกหน้ามาร์คหน้าต่างๆ
เมื่อหน้าเราแพ้เราควรงดกิจกรรมที่จะเป็นการรบกวนใบหน้าของเราให้มากที่สุด การพอกหน้าหรือการมาร์คหน้าก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เราควรหยุดเอาไว้ก่อน เพราะส่วนใหญ่การพอกหน้านั้นมักจะทำให้ผิวของเราแห้งมากกว่าเดิม ซึ่งจะเป็นการทำให้หน้าที่แพ้ของเราหนักหนาสาหัสมากขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นถ้าอยากหายจากอาการแพ้แล้วล่ะก็ ควรหยุดพอกหน้ากันก่อนดีกว่านะคะ

5. ทายาลดผดผื่นคัน
บางครั้งหน้าของเราที่แพ้อาจเกิดอาการคันร่วมด้วย เมื่อเราคันจนทนไม่ไหวก็อาจหายาทาที่สามารถช่วยลดอาการบนหน้าของเรา ลองไปหาซื้อยาทาแก้คันตามร้านขายยามาใช้ดู ลองปรึกษากับเภสัชที่ขายยาก็ได้ บอกอาการเบื้องต้นให้เภสัชเขารู้ จะได้แนะนำยาทาที่เหมาะสมกับอาการแพ้ของเราให้ ตัวอย่างยาทาที่ใช้ลดอาการคันก็เช่นยาที่มีส่วนผสมของKetoconazole ซึ่งยาเหล่านี้มักจะผสมสารสเตียรอยด์เข้าไปด้วย เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ระงับอาการแพ้ได้อย่างรวดเร็วสามารถใช้ได้ไม่ต้องกังวลมากนัก เพราะเราใช้แค่ชั่วครั้งชั่วคราวพอหายเราก็เลิกใช้แล้ว. หรือจะใช้ชนิดที่ไม่มีสเตียรอยด์ อย่าง Ezerra ก็ได้นะคะแต่จะหาซื้ยากหน่อย เพราะที่ร้านขายยาไม่นิยมนำมาขาย ส่วนใหญ่จะมีที่ร้านขายยาใหญ่ๆคะ
6. อย่าบีบสิวเองเด็ดขาด
บางครั้งอาการแพ้ของเราอาจมีการเกิดสิวเห่อร่วมด้วย ซึ่งพอเห็นสิวบางคนก็อาจเกิดอาการคันไม้คันมืออยากบีบมันขึ้นมาได้ แต่ขอบอกว่าอย่าทำอย่างนั้นเด็ดขาด อย่าบีบสิวที่ขึ้นมาตอนที่เราแพ้เพราะจะยิ่งทำให้เรื่องเลวร้ายมากขึ้น จะทำให้อาการแพ้ของเราบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะปัญหาแผลเป็นหลุมสิวที่จะตามมาซึ่งรักษายากมากๆคะ บางรายเป็นหลุมที่หน้าไปตลอดชีพเลย เพราะฉะนั้นอย่าบีบสิวเด็ดขาดแต่ถ้าเกิดมีสิวอักเสบขึ้นมาก็สามารถหายาแต้มสิวพวกClinda-M , Clindalin gel หรือใช้ ผงวิเศษตราร่มชูชีพ ผสมกับน้ำเปล่า มาแต้มที่หัวสิวได้เพื่อทำให้อาการอักเสบลดน้อยลงนะคะ ด้วยความปรารถดีจาก SK-I ช็อป
7. ทาครีมสร้างความแข็งแรงให้กับผิวหรือจะใช้ว่านหางจระเข้สดๆก็ได้คะ
บางคนอาจจะงงว่าตอนแรกบอกให้งดทาครีมแต่ทำไมข้อนี้บอกให้ทาครีมอีกแล้ว คะครีมที่เราใช้อยู่อาจจะต้องงดแต่ครีมบางตัวก็ยังจำเป็นต้องทา โดยเฉพาะครีมที่ช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิวช่วยลดอาการระคายเคือง ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าของเราให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกมอยเจอร์ไรเซอร์เอาไว้ทาเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เลือกตัวที่คิดว่าใช้แล้วไม่ทำให้แพ้และระคายเคืองมากขึ้น อีกตัวที่อยากแนะนำคือเจลว่านหางจระเข้เอามาทาบำรุงผิวก่อนเข้านอนก็ได้ นอกจากจะช่วยให้หน้าชุ่มชื้นแล้วยังช่วยต้านอาการแพ้อาการอักเสบของผิวหน้าได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ผิวหน้าแข็งแรงขึ้นได้แต่ควรเลือกแบบไม่ผสมแอลกอฮอร์จะดีหรือ จะใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้สดๆ ก็ได้นะคะ พอกไว้ที่หน้าสัก 20-30 นาที วันละ 2-3 ครั้งจะดีมาก

นี่ก็เป็นวิธีแก้อาการแพ้ครีมเบื้องต้น หากใครมีปัญหาอยู่ลองทำตามนี้ดูน่าจะสามารถช่วยลดหรือบรรเทาสิวผดผื่นคันอาการแสบแดงบนหน้าได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าจะให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้นเราก็ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดมากๆ และกินผักผลไม้เยอะๆ เพื่อให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นในการฟื้นฟูสภาพผิวที่ย่ำแย่ของเราให้กลับมาแข็งแรงสวยใสเหมือนเดิม ด้วยความปรารถดีจาก SK-I ช็อป ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ถ้ามีปัญหาสิวฝ้า ปรึกษาได้ฟรีตลอดนะ
วิธีรักษาสิว ฝ้า หน้าหมองคล้ำ ด้วยว่านหางจระเข้ ( Aloe Vera for Acne) โดย SK-I
สิว เป็นปัญหาผิวทั่วไปที่เกิดขึ้นเมื่อรูขุมขนของผิวอุดตันด้วยน้ำมันส่วนเกิน จากเซลล์ที่ตายแล้วและแบคทีเรีย มันจะปรากฏส่วนใหญ่บนใบหน้า หน้าอกและหลัง ลักษณะจะเป็นสีแดง
ว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมและเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสิวที่เก่าแก่ที่สุด ไม่เพียง แต่ช่วยรักษาสิว แต่ยังช่วยในการรักษาแผลไฟไหม้, แผลถลอก และ แผลที่ถูกของมีคมบาด มันเป็นพืชที่เป็นสายพันธุ์แคคตัส และใบของมันมีเยื่อหนาที่ชัดเจน ที่สามารถนำมาใช้รักษาเยียวยาบาดแผลที่เกิดปัญหาดังกล่าว จะได้รับการบรรเทาได้อย่างรวดเร็วและดีขึ้นตามลำดับ.
ว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติหลายอย่างเช่นการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านการอักเสบของสิว,ยับยั้งความเจ็บปวดและเป็นตัวทำให้ตัวบาดแผลจับตัวกันและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ซึ่งจะช่วยในการรักษาสิวเป็นไปอย่าง มีประสิทธิภาพและเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีวิตามินแร่ธาตุโปรตีนกรดอะมิโนและเอนไซม์ที่ร่างกายและผิวของ เราต้องการ เพื่อช่วยการส่งเสริมให้มีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น

&&& ว่านหางจระเข้ช่วยในการรักษาสิว ได้อย่างไร?&&&
1.ว่านหางจระเข้มีฮอร์โมนที่เรียกว่าเรลลิและ polysaccharides ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันแบคทีเรียและกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว
2.เป็น ยาสมานแผลจากธรรมชาติที่ช่วยขจัดความมันส่วนเกิน สิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งต่อไปจะทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนของคุณและทำให้เกิดการติดเชื้อ แบคทีเรียเป็นสาเหตุของการเกิดสิวอักเสบ จึงเป็นการฟื้นฟูและป้องกันการเกิดสิวได้ เป็นอย่างดี.
3.นอกจากนี้ยังช่วยในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์เพื่อให้ผิวที่ถูกทำลายหายเร็วขึ้นและแผลเป็นน้อยลง คือลดการเกิดแผลเป็นนั่นเอง
4.ทำ หน้าที่ป้องกันการอักเสบตามธรรมชาติซึ่งจะช่วยลดอาการบวมแดงอักเสบและปวดที่ เกี่ยวข้องกับการเกิดสิว นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่ทำให้ผิวหนังผ่อนคลายอีกด้วย
5.ทำ หน้าที่เป็นสารยับยั้งความเจ็บปวดที่จะช่วยลดอาการปวดเมื่อย หรือได้รับบาดเจ็บ มันจะแทรกซึมลึกและบล็อกความเจ็บปวดในชั้นลึกของผิวหนัง เพื่อช่วยลดโอกาสในการอักเสบของผิวหนังนั่นเอง
6.นอก จากนี้ยังช่วยลดรอยแผลเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ทำไมหรือ ? เพราะมันมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอิทธิพลที่มีอยู่ในเจล ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดและซ่อมผิวของคุณให้ดีขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีสังกะสี, วิตามิน C และ E ซึ่งจะช่วยในการลดรอยแผลเป็นจากผิวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นวิธีรักษาสิวที่นิยมมากๆ .ในยุโรป และบ้านเรา
เป็นอย่างไรบ้างคะ รู้ถึงข้อดีของสมุนไพรจากธรรมชาติอย่างว่านหางจรเข้แล้ว
ของเขาดีจริงๆนะคะ ควรมีไว้ติดบ้านนะจะบอกให้
วิธีรักษาสิว ด้วยว่านหางจรเข้ ช่วยให้สิวยุบ
วิธีทำ

1.ตัดว่านหางจระเข้แล้วนำไปแช่น้ำประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ยางสีเหลืองไหลออกมา
2.ปลอกเปลือกว่านหางจระเข้ออก จนเหลือแต่วุ้นใสๆ ล้างยางออกให้หมด
3.นำเฉพาะวุ้นว่านหางจระเข้มาใช้ โดยหั่นเป็นชิ้นบางๆหรือบดละเอียดคั้นเอาเฉพาะน้ำวุ้น
เก็บไว้ในตู้เย็นใช้ได้หลายครั้ง

กลางคืน : ใช้ทาบริเวณที่เป็นสิว ไม่ต้องล้างออก จะทำให้สิวแห้ง และยุบลง
กลางวัน : หลังล้างหน้าทุกครั้ง ใช้น้ำวุ้นว่านหางจระเข้แต้มหรือพอกบริเวณหัวสิว
ประมาณ 25-30 นาที
ว่านหางจระเข้จะช่วยดูดสารพิษและฆ่าแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว พร้อมฟื้นฟูผิวอักเสบให้ดีขึ้น สมานแผลและลดรอยแผลเป็นจากสิว เพิมภูมิต้านทานให้กับผิว ดูเต่งตึง ขาวใสอย่างธรรมชาติ

ว่านหางจระเข้สดๆจะมีคุณภาพสูงสุด เมื่อตัดจากต้นแล้วนำมาใช้ทันที สำหรับผู้ที่ไม่สามารถหาว่านหางจระเข้สดๆมาใช้ได้ อาจใช้ครีมที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ ทั่วไปก็พอใช้ได้ (นำไปแช่ในตู้เย็น เวลาใช้จะรู้สึกเย็นสบายผิว)

วิธีรักษาสิว ด้วยครีมที่ทำเองจากว่านหางจรเข้ + น้ำมะนาว+ขมิ้น
ส่วนผสม
1. ดินสอพอง 1/2 ช้อนโต๊ะ
2. ขมิ้นชันผง 1/4 ช้อนชา (ปลายช้อนชา)
3. น้ำวุ้นว่านหางจระเข้ 2 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1.ผสมว่านหางจระเข้กับน้ำมะนาวให้เข้ากัน
2. เทส่วนผสมที่เหลือ ลงไปในดินสอพองทีละน้อยคนให้เข้ากัน
3. หากเหนียวเกินไป ให้เพิ่มน้ำวุ้นว่านหางจระเข้กับน้ำมะนาวอีก จนครีมมีลักษณะเหลวเล็กน้อย

วิธีใช้ ใช้พอกหน้า รักษาสิวต่างๆได้ดี พอกไว้ไม่ต่ำกว่าครั้งละ 25- 30 นาที หรือจะพอกทิ้งไว้ทั้งคืนก็ได้

เกร็ดน่ารู้

น้ำมะนาวทำให้ผิวสะอาด สิวแห้ง และกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว แต่ไม่ควรแต้มน้ำมะนาวที่สิวโดยตรง เพราะมีฤทธิ์เข้มข้นเกินไป อาจทำให้ผิวเป็นด่างดำได้ การพอกผิวหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำมะนาว จะทำให้ผิวบางและไวต่อแสงแดด ควรพอกในเวลาเย็น หรือเวลากลางคืน และต้องทาครีมกันแดดในตอนกลางวัน (เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 เป็นอย่างน้อย)

เคล็ดลับการใช้ว่านหางจระเข้

หากนำว่านหางจระเข้แช่ในตู้เย็นจนเย็น จะทำให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้น ควรใช้ว่านหางจระเข้ที่สดใหม่ จะมีคุณภาพในการรักษาได้ดีที่สุด ใช้วุ้นว่านหางจระเข้เคลือบแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกไว้ ผิวจะไม่เป็นแผลเป็น และยังทำให้แผลหายเร็วอีกด้วย ควรเคลือบแผลให้เร็วที่สุด ควรปลูกว่านหางจระเข้ไว้ในบริเวณบ้าน โดยเฉพาะใกล้ๆห้องครัว จะได้ใช้ว่านหางจระเข้ที่สดใหม่และใช้ได้ทันท่วงที ผู้ที่เป็นฝ้า หรือใบหน้าตกกระ ให้ทาว่านหางจระเข้เป็นประจำทุกวันหลังล้างหน้าในตอนเย็น สำหรับผู้สูงอายุที่มีกระเป็นเกร็ดแข็งๆ ใช้ว่านหางจระเข้ทาทุกวัน เกร็ดของกระจะหลุดลอกออกมาอย่างเห็นได้ชัด ผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นของว่านหางจระเข้ หลังจากใช้น้ำวุ้นทาทั่วหน้าแล้ว อาจทาครีมก่อนนอนทับอีกชั้นหนึ่งก็ได้ ซึงเป็นวิธีรักษาสิวแบบธรรมชาติที่ดีมาก
*ข้อควรระวัง !
1.เพื่อ หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการแพ้ ก่อนใช้ควรตรวจสอบว่า ตนเองจะเกิดอาการแพ้หรือไม่ โดยใช้น้ำที่ได้จากวุ้นสีขาว ของว่านหางจระเข้ ทาตรงบริเวณโคนหู แล้วทิ้งไว้สักครู่ ถ้าเกิดการระคายเคืองเป็นผื่นแดง แสดงว่าแพ้ ไม่เหมาะที่จะใช้กับผิวหน้า
2.ไม่ควรใช้ว่านหางจระเข้กับสิวหัวหนอง เพราะฟิล์มจากว่านจะทำให้สิวหายช้า (แต่ถ้าบีบหัวหนองออกแล้วก็สามารถใช้ได้คะ)
เคล็ดลับหน้าขาวใส มีออร่า ด้วยมะเขือเทศ+โยเกิร์ตใน 7 วัน โดย SK-I
เคล็ดลับหน้าขาวใส มีออร่า ด้วยมะเขือเทศ+โยเกิร์ตใน 7 วัน
มะเขือเทศช่วยทำให้หน้าขาวใสขึ้นได้อย่างไร?
1.ในมะเขือเทศจะมีสาร Curotenoid และวิตามินอีกหลายชนิด เช่น วิตามินเอ ซึ่งช่วยในการสร้างสุขภาพผิวให้ดี และยังช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกินออกไป
2. วิตามินซี วิตามินอี เป็นต้น น้ำจากผลมะเขือเทศสุกจะมีสาร Licopersioin ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว สิวอักเสบ
3.อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ รวมไปถึงกรด AHA จึงทำให้มะเขือเทศจึงมีส่วนช่วยในการสมานผิว ลดรอยเหี่ยวย่น และจุดด่างดำให้น้อยลง
4. ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่คล้ำเสียเสื่อสภาพให้หลุดออก ทำให้ชั้นผิวใหม่ที่เกิดขึ้นมาดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้นทำให้ผิวขาวใส เปล่งประกาย

&&& สูตรแก้หน้าดำหายเป็นปลิดทิ้ง!! ขาวใสมีออร่า ใน 7วัน ไม่ต้องเปลืองเงินก็สวยได้ &&&
1. สูตร มะเขือเทศ + โยเกิร์ต+ขมิ้น+มะขามเปียก

วิธีทำ
1.เตรียมโยเกิร์ต มะเขือเทศบดหรือสับละเอียด ผงขมิ้น และน้ำมะขามเปียก
2.นำมาผามคลุกเคล้าให้เข้ากันโดยปรับส่วนผสมได้ตามต้องการ
3.หากส่วนผสมแห้งเกินไปก็ใส่โยเกิร์ตเพิ่ม หรือเหลวเกินไปก็เติมผงขมิ้นเพิ่มได้
4.นำมาพอกทั่วใบหน้าทิ้งไว้จนแห้ง ประมาณ 15-20 นาที
5. ล้างออกด้วยน้ำให้สะอาด พอกเป็นประจำ 1 ครั้ง/สัปดาห์ หน้าจะขาวใส เนียนนุ่ม จุดด่างดำจางลงคะ
2. สูตร มะเขือเทศ + โยเกิร์ต
วิธีทำ
1.นำโยเกิร์ต 3 ช้อนโต๊ะผสมกับมะเขือเทศลูกเล็กๆ 2-3 ลูก
2.ปั่นให้เข้ากัน
3.นำมาพอกให้ทั่วใบหน้า 15 นาที แล้วค่อยล้างออกให้สะอาด
สูตรนี้ผิวคุณจะได้ประโยชน์จากวิตามินซีในมะเขือเทศเพิ่มขึ้นอีกทำให้หน้าใสอมชมพูดเหมือนเด็กค่ะ

3. โยเกิร์ต +เกลือป่น
วิธีทำ
1.นำโยเกิร์ต 1 ถ้วย ผสมกับเกลือป่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
2.ผสมให้เข้ากันดี แล้วนำมาชโลมให้ทั่วผิวหน้า ใช้ปลายนิ้วขัดเบาๆ ให้ทั่ว ประมาณ 5 นาที
3.ทิ้งไว้บนผิวหน้าอีก 5 นาที แล้วจึงล้างออก
สูตรนี้ทำได้เดือนละครั้งค่ะ นอกจากผิวเปล่งปลั่งแล้วยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ
เผยผิวใหม่ ขาวใสอมชมพูเลยละ

http://www.mx7.com/i/ad0/fxbaWT.jpg (http://sakura16.lnwshop.com/article)

ฝ้ายSK-I
August 15th, 2016, 05:48
ใช้แล้วไม่ผิดหวังแน่นอน

ฝ้ายSK-I
August 15th, 2016, 20:39
ขาวใสอมชมพู ดูเยาร์วัย สะดุดทุกสายตา

ฝ้ายSK-I
August 16th, 2016, 06:51
ไม่ขาวใส เราจะไม่ให้คุณจ่ายตางค์

ฝ้ายSK-I
August 18th, 2016, 06:30
ไม่อยากให้เชื่อแต่อยากให้ลอง

ฝ้ายSK-I
August 23rd, 2016, 06:54
อ่อนโยนต่อผิว