rattaw24
October 3rd, 2014, 16:06
CCTV (http://www.p-cctv.com/) คืออะไร สำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้งาน หรือไม่เคยได้ยินคำนี้อาจไม่รู้จัก ด้วยเหตุนั้นจะขอแนะนำคำว่า CCTV ให้รู้จักในเบื้องต้นพอสังเขป CCTV ย่อมาจาก Close Circuit Television คือการส่งภาพจากกล้องไปยังจอแสดงภาพ เพื่อการควบคุมหรือรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเป็นการเฉพาะ CCTV เกิดขึ้นครั้งแรกที่เยอรมนีใน ค.ศ. 1942 CCTV อาจเรียกอีกอย่างว่า "Video Surveillance System" คือ ระบบการรับภาพจากกล้องที่เป็นระบบรักษาความปลอดภัยและเก็บบันทึกไว้ เพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน เหตุการณ์ต่างๆ CCTV จากสมัยเก่าถึงปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงจากระบบรักษาความปลอดภัยมาเป็นระบบส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจในหลากหลายรูปแบบ อาทิเช่น นำ CCTV มากำกับดูแลการทำงานของพนักงาน, นำ CCTV มาใช้ดูความคืบหน้าของงานก่อสร้าง, นำ CCTV มาใช้ควบคุมการผลิตในโรงงาน หรือ นำ CCTV มาใช้เฝ้าระวังภัยกับเด็กเล็กและคนชรา เป็นต้น จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าระบบ CCTV ก้าวข้ามระบบรักษาความปลอดภัยมาสู่ระบบส่งเสริมและสนับสนุนในธุรกิจหลากหลายรูปแบบ ทำ.ให้ CCTV ได้เข้าผูกพันอยู่รอบตัวจนเป็นวิถีชีวิตโดยไม่รูสึกตัวทุก ๆ วันนี้เราถูกบันทึกภาพจาก CCTV กี่ครั้ง กี่กล้อง ในสถานที่ใดบางไม่อาจตอบได้ แต่เชื้อได้ว่าในสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงถนนแทบทุกที่ๆเราผ่านไปมาล้วนจะต้องติดตั้ง CCTV ไว้ไม่ว่าจะเพื่อเป็นระบบรักษาความปลอดภัย หรือเพื่ออำนวยความสะดวกก็ตาม
จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องนำ CCTV มาใช้งาน CCTV ไม่ใช่เทรนสิ้นค้ายุกต์ใหม่ ไม่ใช่สินค้าแฟชั่น ที่จะต้องทำเรียนแบบแต่ CCTV เป็นระบบที่เอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลทั่วไป และเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจ เนื่องจาก CCTV สามารถนำไปใช้งานได้มากมายหลากหลายรูปแบบจนเกินจินตนาการ อาทิเช่น ใช้ CCTV แทนยาม, ใช้ CCTV แทนระบบรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ, ใช้ CCTV ช่วยลดค่าเดินทาง, ใช้ CCTV กระตุ้นการทำงาน เป็นต้น ปัจจุบัน CCTV ได้พัฒนาระบบ ส่งภาพผ่านระบบ Internet ทำให้สามารถจะดูภาพ CCTV ที่ติดตั้งจากส่วนใดในโลกนี้ก็ได้ และ CCTV ได้พัฒนาระบบแจ้งเตือนซึ่งถ้านำมาใช้งานร่วมกับ Internet และ Email ทำให้สามารถรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่แจ้งได้ทุกมุมโลก จากที่กล่าวแล้วจะเห็นได้ว่า CCTV เป็นปัจจัยสำคัญอีกประการ สำหรับบุคคลและธุรกิจ ดังนั้นจึงควรจัดหา CCTV มาใช้งานตามความเหมาะสม
CCTV มีคุณลักษณะอย่าไร CCTV จะแบ่งออกเป็น 3 ระบบใหญ่ คือ Analog, Digital และ HD-SDI ทั้ง 3 ระบบมีข้อแตกต่างกัน เริ่มตั้งแต่ระบบการส่งสัญญาณ หรือข้อมูลที่ออกจากกล้อง สายสัญญาณที่ใช้ในระบบ คุณสมบัติและหลักการทำงานของกล้อง ระบบในการบันทึกภาพและเครื่องบันทึกภาพ คุณภาพของภาพที่ได้
ข้อแตกต่างของ CCTV ทั้ง 3 ระบบถ้าพิจารณาแบบง่ายให้ผู้ที่ยังไม่รู้จักเข้าใจง่าย ๆ คือ
1. CCTV ระบบ Analog คือระบบที่มีใช้กันมายาวนาน เป็นระบบที่ส่งสัญญาณข้อมูลแบบต่อเนื่อง (Continuouse Data) จะมีขนาดของข้อมูลไม่คงที่ ใช้สายสัญญาณ (Coax cable) เช่น สาย RG6 RG11 ปัจจุบันความคมชัด หรือรายละเอียดของภาพขนาดประมาณ 960 H (960x576) โดยจะใช้กล้องที่ขนาด 700-1000 TVL
2. CCTV ระบบ Digital (IP Network) คือระบบที่พัฒนามาใหม่ เป็นระบบที่ส่งสัญญาณดิจิตอล (Digital Signal) หมายถึง สัญญาณที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลแบบไม่ต่อเนื่อง (Discrete Data) ที่มีขนาดแน่นอน สายสัญญาณที่ใช้ในระบบ Digital ส่วนมากจะเป็นสาย Cat5 จะให้ภาพที่มีคุณภาพดี มากกว่า 1 ล้านพิกเซล ขึ้นไป
3. CCTV ระบบ HD-SDI คือกล้อง Digital ที่ใช้สายสัญญาณ (Coax) ระบบรองรับการส่งสัญญาณที่มีความละเอียดมากกว่าความละเอียด แบบธรรมดาถึง 5 เท่า ทำให้สัญญาณภาพมีความคมชัดในระดับ HD หรือประมาณ 1 ล้านพิกเซล
ระบบของ CCTV จะประกอบด้วยอุปกรณ์หลัก คือ กล้อง เครื่องบันทึกภาพ และจอแสดงภาพ แต่จากส่วนประกอบหลักนี้ ยังสามารถจำแนกออกเป็นลักษณะต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น
1. ลักษณะของกล้องในระบบ CCTV
- กล้องที่ติดตั้งแบบคงที่ตัวกล้องจะขยับส่ายไม่ได้ และกล้องที่สามารถหมุนหรือส่ายได้
- กล้องที่เป็นรูปทรงกระบอก และกล้องรูปโดม
- กล้องที่ใช้เลนส์แบบซูมภาพได้ และแบบซูมไม่ได้
- กล้องที่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ และกล้องที่ใช้เลนส์ขนาดตายตัว
- กล้องแบบ Analog กล้องแบบ Digital และ กล้องแบบ HD-SDI
- กล้องแบบมีกล้องคลอบกันแดดฝนในตัว และแบบไม่มีกล่องคลอบกันแดดฝนจำเป็นต้องนำกล่องคลอบมาใส่ก่อนการนำไปติดตั้ง
- กล้องที่มีระบบหลอดให้แสงสำหรับดูภาพในที่มืด และกล้องที่ไม่ระบบหลอดให้แสงสำหรับดูภาพในที่มืด
-
2. ลักษณะของเครื่องบันทึกภาพในระบบ CCTV
- เครื่องบันทึกภาพที่มีช่องสัญญาณ รองรับช่องสัญญาณ 4, 8, 16, 24, 32 ช่องสัญญาณ แล้วแต่ผู้ผลิตที่จะทำออกมาเพื่อรองการใช้งานและผู้ใช้จะเลือกนำมาใช้งาน
- เครื่องบันทึกภาพที่รองรับระบบ Analog, ระบบ Digital และระบบ HD-SDI
- เครื่องบันทึกที่เป็นเครื่องฮาร์ดแวร์ และเครื่องคอมพิเตอร์ที่นำมาใช้เป็นระบบบันทึกภาพ
3. ลักษณะของจอแสดงภาพในระบบ CCTV
- จอภาพที่นำจอมอร์นิเตอร์ (จอที่ใช้สำหรับแสดงภาพโดยเฉพาะซึ่งจะแสดงรายละเอียดของภาพได้คมชัดสูงสุด) และจอแสดงภาพที่นำเครื่อง TV LED มาเป็นจอแสดงภาพ
- จอภาพจะมีขนาดต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบัน จอภาพในตลาดที่เป็น Monitor และ TV LED จะมีขนาดตั้งแต่ 20 นิ้วขึ้นไปให้เลือกใช้งานตามความต้องการ
นอกจากนี้ในระบบ CCTV ยังมีส่วนประกอบอื่น ที่มีความสำคัญต่อระบบ CCTC คือ
1. ระบบสายสัญญาณ แยกออกเป็น
- สายสัญญาณ Coax RG6 และ RG11 สำหรับ CCTC ระบบ Analog และ Digital และสาย Lan Cat 5 หรือ Cat 6 สำหรับ CCTC ระบบ Digital
- สายสัญญาณสำหรับติดตั้งภายในอาคาร และสายสัญญาณสำหรับติดตั้งภาพนอกอาคาร (ซึ่งจะมีคุณสมบัติของฉนวนห้อหุ้ม ที่ออกแบบมาแตกต่างกันตามลักษณะการใช้งาน โดยจะมีความคงทนต่อแสดงแดด และน้ำฝนที่ต่างกัน)
- สายสัญญาณที่มีเส้นลวดสลิงเพื่อเพิ่มความดำรงอยู่ของสาย ในกรณีที่ต้องเดินรอยสายโยงผ่านเสาไฟฟ้าข้ามไป
- สายสัญญาณ RG 6 ปรกติ และสายสัญญาณ RG 6 แบบมีสายไฟฟ้าที่ติดแนบ
2. ระบบไฟฟ้าสำหรับเลี้ยงกล้อง แยกออกเป็น
- ใช้ระบบ Adapter แปลงไฟฟ้า 220 VAC เป็น ไฟฟ้า 12 VDC เพื่อเลี้ยงกล้อง
- ใช้ระบบ Switching แปลงไฟฟ้า 220 VAC เป็น ไฟฟ้า 12 VDC เพื่อเลี้ยงกล้อง
- ใช้ระบบจากเครื่องบันทึกที่แปลงไฟฟ้า 220 VAC เป็น ไฟฟ้า 12 VDC เพื่อเลี้ยงกล้อง
3. กล่องที่ใช้ใส่กล้องและขาสำหรับติดกล้อง ซึ่งมีหลากหลายแบบให้เลือกใช้งานได้ตามสภาพหรือสถานที่จะใช้ติดตั้ง
ถ้าต้องการนำระบบ CCTV มาใช้งาน จะเลือกคัดอย่างไร จากคำถามนี้สิ่งจะต้องใคร่ครวญ คือ วงเงินที่จะจัดหาระบบ CCTV มาติดตั้งใช้งาน ซึ่งการกำหนดวงเงินอาจกำหนดจากงบประมาณที่น่าจะหามาได้ก่อน หรือกำหนดจากพื้นที่ที่มีความจำเป็นที่จะต้องมีภาพเพื่อการทดสอบหรือควบคุม พื้นที่จะต้องการเห็นภาพอาจจะใช้วิธีประชุมพนักงานเพื่อระดมความคิด หรือให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ออกแบบกำหนดให้ก็ได้ หลังจากได้ตำแหน่งที่ต้องภาพแล้วจึงกำหนดว่าต้องการระยะความคมชัดในการมองเห็นภาพ และรายละเอียดของภาพมากน้อยเท่าใด สิ่งที่จะทำให้งบแปลผันคือ จำนวนกล้องมากเท่าไรจะมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นตามจำนวนของกล้อง เครื่องบันทึกภาพ และระยะของสายสัญญาณและสายไฟฟ้าสำหรับเลี้ยงกล้อง นอกจากนี้งบประมาณจะแปลผันตามระยะความลึกชัดของภาพ และความคมชัดของภาพยิ่งภาพชัดมากดองได้ไกลมาจะมีราคาสูงมากตาม
สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งของระบบ CCTV คือข้อจำกัดของระยะสายที่เดินจากเครื่องบันทึกภาพ หรือคอมพิวเตอร์ไปยังกล้อง สายของ ซึ่งถ้าเกินขีดจำกัดของระยะตามมาตรฐาน จะต้องใช้อุปกรณ์ขยายสัญญาณ หรือเปลี่ยนระบบจากสายสัญญาณปรกติ RG 6 หรือ Cat 5 เป็นสายสัญญาณประเภท Fiber Optic
อนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือระบบการติดตั้ง CCTV จากผู้ให้บริการ เพราะถ้าอุปกรณ์จะดีมากแค่ไหนก็ตามแต่ถ้าผู้ติดตั้งขาดความชำนาญ หรือความรอบคอบอาจทำให้ทั้งระบบของ CCTV มีคุณภาพลดลง เช่นภาพขาดความคมชัดตามหลักเกณฑ์ ภาพเกิดการสั่นไหว หรือระยะการใช้งานสั้นลง ระบบเสียบ่อย
ดังนั้นก่อนจะตัดสินที่จะนำระบบ CCTV มาใช้งานขอให้พิจารเงื่อนตามที่กล่าวแล้วให้รอบคอบก่อนเลือกใช้ หรือใช้วิธีติดต่อสอบถามผู้ให้บริการหลาย ๆ เจ้าเพื่อตรวจสอบความคล่องแคล่วของผู้ให้บริการ
จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องนำ CCTV มาใช้งาน CCTV ไม่ใช่เทรนสิ้นค้ายุกต์ใหม่ ไม่ใช่สินค้าแฟชั่น ที่จะต้องทำเรียนแบบแต่ CCTV เป็นระบบที่เอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลทั่วไป และเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจ เนื่องจาก CCTV สามารถนำไปใช้งานได้มากมายหลากหลายรูปแบบจนเกินจินตนาการ อาทิเช่น ใช้ CCTV แทนยาม, ใช้ CCTV แทนระบบรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ, ใช้ CCTV ช่วยลดค่าเดินทาง, ใช้ CCTV กระตุ้นการทำงาน เป็นต้น ปัจจุบัน CCTV ได้พัฒนาระบบ ส่งภาพผ่านระบบ Internet ทำให้สามารถจะดูภาพ CCTV ที่ติดตั้งจากส่วนใดในโลกนี้ก็ได้ และ CCTV ได้พัฒนาระบบแจ้งเตือนซึ่งถ้านำมาใช้งานร่วมกับ Internet และ Email ทำให้สามารถรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่แจ้งได้ทุกมุมโลก จากที่กล่าวแล้วจะเห็นได้ว่า CCTV เป็นปัจจัยสำคัญอีกประการ สำหรับบุคคลและธุรกิจ ดังนั้นจึงควรจัดหา CCTV มาใช้งานตามความเหมาะสม
CCTV มีคุณลักษณะอย่าไร CCTV จะแบ่งออกเป็น 3 ระบบใหญ่ คือ Analog, Digital และ HD-SDI ทั้ง 3 ระบบมีข้อแตกต่างกัน เริ่มตั้งแต่ระบบการส่งสัญญาณ หรือข้อมูลที่ออกจากกล้อง สายสัญญาณที่ใช้ในระบบ คุณสมบัติและหลักการทำงานของกล้อง ระบบในการบันทึกภาพและเครื่องบันทึกภาพ คุณภาพของภาพที่ได้
ข้อแตกต่างของ CCTV ทั้ง 3 ระบบถ้าพิจารณาแบบง่ายให้ผู้ที่ยังไม่รู้จักเข้าใจง่าย ๆ คือ
1. CCTV ระบบ Analog คือระบบที่มีใช้กันมายาวนาน เป็นระบบที่ส่งสัญญาณข้อมูลแบบต่อเนื่อง (Continuouse Data) จะมีขนาดของข้อมูลไม่คงที่ ใช้สายสัญญาณ (Coax cable) เช่น สาย RG6 RG11 ปัจจุบันความคมชัด หรือรายละเอียดของภาพขนาดประมาณ 960 H (960x576) โดยจะใช้กล้องที่ขนาด 700-1000 TVL
2. CCTV ระบบ Digital (IP Network) คือระบบที่พัฒนามาใหม่ เป็นระบบที่ส่งสัญญาณดิจิตอล (Digital Signal) หมายถึง สัญญาณที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลแบบไม่ต่อเนื่อง (Discrete Data) ที่มีขนาดแน่นอน สายสัญญาณที่ใช้ในระบบ Digital ส่วนมากจะเป็นสาย Cat5 จะให้ภาพที่มีคุณภาพดี มากกว่า 1 ล้านพิกเซล ขึ้นไป
3. CCTV ระบบ HD-SDI คือกล้อง Digital ที่ใช้สายสัญญาณ (Coax) ระบบรองรับการส่งสัญญาณที่มีความละเอียดมากกว่าความละเอียด แบบธรรมดาถึง 5 เท่า ทำให้สัญญาณภาพมีความคมชัดในระดับ HD หรือประมาณ 1 ล้านพิกเซล
ระบบของ CCTV จะประกอบด้วยอุปกรณ์หลัก คือ กล้อง เครื่องบันทึกภาพ และจอแสดงภาพ แต่จากส่วนประกอบหลักนี้ ยังสามารถจำแนกออกเป็นลักษณะต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น
1. ลักษณะของกล้องในระบบ CCTV
- กล้องที่ติดตั้งแบบคงที่ตัวกล้องจะขยับส่ายไม่ได้ และกล้องที่สามารถหมุนหรือส่ายได้
- กล้องที่เป็นรูปทรงกระบอก และกล้องรูปโดม
- กล้องที่ใช้เลนส์แบบซูมภาพได้ และแบบซูมไม่ได้
- กล้องที่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ และกล้องที่ใช้เลนส์ขนาดตายตัว
- กล้องแบบ Analog กล้องแบบ Digital และ กล้องแบบ HD-SDI
- กล้องแบบมีกล้องคลอบกันแดดฝนในตัว และแบบไม่มีกล่องคลอบกันแดดฝนจำเป็นต้องนำกล่องคลอบมาใส่ก่อนการนำไปติดตั้ง
- กล้องที่มีระบบหลอดให้แสงสำหรับดูภาพในที่มืด และกล้องที่ไม่ระบบหลอดให้แสงสำหรับดูภาพในที่มืด
-
2. ลักษณะของเครื่องบันทึกภาพในระบบ CCTV
- เครื่องบันทึกภาพที่มีช่องสัญญาณ รองรับช่องสัญญาณ 4, 8, 16, 24, 32 ช่องสัญญาณ แล้วแต่ผู้ผลิตที่จะทำออกมาเพื่อรองการใช้งานและผู้ใช้จะเลือกนำมาใช้งาน
- เครื่องบันทึกภาพที่รองรับระบบ Analog, ระบบ Digital และระบบ HD-SDI
- เครื่องบันทึกที่เป็นเครื่องฮาร์ดแวร์ และเครื่องคอมพิเตอร์ที่นำมาใช้เป็นระบบบันทึกภาพ
3. ลักษณะของจอแสดงภาพในระบบ CCTV
- จอภาพที่นำจอมอร์นิเตอร์ (จอที่ใช้สำหรับแสดงภาพโดยเฉพาะซึ่งจะแสดงรายละเอียดของภาพได้คมชัดสูงสุด) และจอแสดงภาพที่นำเครื่อง TV LED มาเป็นจอแสดงภาพ
- จอภาพจะมีขนาดต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบัน จอภาพในตลาดที่เป็น Monitor และ TV LED จะมีขนาดตั้งแต่ 20 นิ้วขึ้นไปให้เลือกใช้งานตามความต้องการ
นอกจากนี้ในระบบ CCTV ยังมีส่วนประกอบอื่น ที่มีความสำคัญต่อระบบ CCTC คือ
1. ระบบสายสัญญาณ แยกออกเป็น
- สายสัญญาณ Coax RG6 และ RG11 สำหรับ CCTC ระบบ Analog และ Digital และสาย Lan Cat 5 หรือ Cat 6 สำหรับ CCTC ระบบ Digital
- สายสัญญาณสำหรับติดตั้งภายในอาคาร และสายสัญญาณสำหรับติดตั้งภาพนอกอาคาร (ซึ่งจะมีคุณสมบัติของฉนวนห้อหุ้ม ที่ออกแบบมาแตกต่างกันตามลักษณะการใช้งาน โดยจะมีความคงทนต่อแสดงแดด และน้ำฝนที่ต่างกัน)
- สายสัญญาณที่มีเส้นลวดสลิงเพื่อเพิ่มความดำรงอยู่ของสาย ในกรณีที่ต้องเดินรอยสายโยงผ่านเสาไฟฟ้าข้ามไป
- สายสัญญาณ RG 6 ปรกติ และสายสัญญาณ RG 6 แบบมีสายไฟฟ้าที่ติดแนบ
2. ระบบไฟฟ้าสำหรับเลี้ยงกล้อง แยกออกเป็น
- ใช้ระบบ Adapter แปลงไฟฟ้า 220 VAC เป็น ไฟฟ้า 12 VDC เพื่อเลี้ยงกล้อง
- ใช้ระบบ Switching แปลงไฟฟ้า 220 VAC เป็น ไฟฟ้า 12 VDC เพื่อเลี้ยงกล้อง
- ใช้ระบบจากเครื่องบันทึกที่แปลงไฟฟ้า 220 VAC เป็น ไฟฟ้า 12 VDC เพื่อเลี้ยงกล้อง
3. กล่องที่ใช้ใส่กล้องและขาสำหรับติดกล้อง ซึ่งมีหลากหลายแบบให้เลือกใช้งานได้ตามสภาพหรือสถานที่จะใช้ติดตั้ง
ถ้าต้องการนำระบบ CCTV มาใช้งาน จะเลือกคัดอย่างไร จากคำถามนี้สิ่งจะต้องใคร่ครวญ คือ วงเงินที่จะจัดหาระบบ CCTV มาติดตั้งใช้งาน ซึ่งการกำหนดวงเงินอาจกำหนดจากงบประมาณที่น่าจะหามาได้ก่อน หรือกำหนดจากพื้นที่ที่มีความจำเป็นที่จะต้องมีภาพเพื่อการทดสอบหรือควบคุม พื้นที่จะต้องการเห็นภาพอาจจะใช้วิธีประชุมพนักงานเพื่อระดมความคิด หรือให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ออกแบบกำหนดให้ก็ได้ หลังจากได้ตำแหน่งที่ต้องภาพแล้วจึงกำหนดว่าต้องการระยะความคมชัดในการมองเห็นภาพ และรายละเอียดของภาพมากน้อยเท่าใด สิ่งที่จะทำให้งบแปลผันคือ จำนวนกล้องมากเท่าไรจะมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นตามจำนวนของกล้อง เครื่องบันทึกภาพ และระยะของสายสัญญาณและสายไฟฟ้าสำหรับเลี้ยงกล้อง นอกจากนี้งบประมาณจะแปลผันตามระยะความลึกชัดของภาพ และความคมชัดของภาพยิ่งภาพชัดมากดองได้ไกลมาจะมีราคาสูงมากตาม
สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งของระบบ CCTV คือข้อจำกัดของระยะสายที่เดินจากเครื่องบันทึกภาพ หรือคอมพิวเตอร์ไปยังกล้อง สายของ ซึ่งถ้าเกินขีดจำกัดของระยะตามมาตรฐาน จะต้องใช้อุปกรณ์ขยายสัญญาณ หรือเปลี่ยนระบบจากสายสัญญาณปรกติ RG 6 หรือ Cat 5 เป็นสายสัญญาณประเภท Fiber Optic
อนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือระบบการติดตั้ง CCTV จากผู้ให้บริการ เพราะถ้าอุปกรณ์จะดีมากแค่ไหนก็ตามแต่ถ้าผู้ติดตั้งขาดความชำนาญ หรือความรอบคอบอาจทำให้ทั้งระบบของ CCTV มีคุณภาพลดลง เช่นภาพขาดความคมชัดตามหลักเกณฑ์ ภาพเกิดการสั่นไหว หรือระยะการใช้งานสั้นลง ระบบเสียบ่อย
ดังนั้นก่อนจะตัดสินที่จะนำระบบ CCTV มาใช้งานขอให้พิจารเงื่อนตามที่กล่าวแล้วให้รอบคอบก่อนเลือกใช้ หรือใช้วิธีติดต่อสอบถามผู้ให้บริการหลาย ๆ เจ้าเพื่อตรวจสอบความคล่องแคล่วของผู้ให้บริการ